xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรชะลอเลี้ยงปลากระชัง “น้ำมูล” หลังน้ำลดต่ำ ปลาติดเชื้อตายเป็นเบือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - เกษตรกรเลี้ยงปลากระชังบ้านท่าเรือ อ.สตึก บุรีรัมย์ ร่วม 30 ราย ต้องชะลอการเลี้ยง หลังปริมาณน้ำมูลลดต่ำ ประกอบกับปลาติดเชื้อน็อกตายขาดทุนรายละกว่า 1-2 แสนบาท จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งยังเกรงน้ำมูลแห้งขอดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา และไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงให้ปลาเจริญเติบโต ขายได้ไม่คุ้มต่อการลงทุน

วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแม่น้ำมูลมีปริมาณน้ำลดต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่บ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ร่วม 30 ราย ต้องชะลอการเลี้ยง เนื่องจากเกรงว่าน้ำในลำน้ำมูลจะแห้งขอดเร็วกว่าปกติ และจะทำให้ปลาไม่เจริญเติบโต ขายได้ไม่คุ้มต่อการลงทุน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้เกิดการติดเชื้อ ตามตัวมีจุดแดง เป็นแผล และเกิดการน็อกตายเสียหายไปเกินกว่าครึ่ง

กรณีดังกล่าว ผู้เลี้ยงปลากระชังยังเชื่อว่าปลาบางส่วนที่ตายไปเกิดจากน้ำฝนที่ตกลงมาได้ชะล้างเอาสารเคมี ยาฆ่าแมลงตามสวน และไร่นาของเกษตรกรที่เพาะปลูกไหลลงมาในลำน้ำมูล ส่งผลกระทบต่อปลาที่เลี้ยง เกิดโรค และน็อกตาย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาต้องขาดทุนรายละ 1-2 แสนบาท จากที่ต้องลงทุนในการเลี้ยงปลาตั้งแต่คนละ 200,000-300,000 บาท/ราย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาส่วนมากไม่เสี่ยงที่จะลงทุนในการเลี้ยงในขณะนี้ และปัจจุบันมีผู้เลี้ยงเหลือเพียง 6-7 รายเท่านั้น

นายสมโภชน์ สกุลทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าเรือ หมู่ 7 ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า ปีนี้น้ำมูลมีปริมาณลดต่ำในรอบหลายปี ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังได้ชะลอการเลี้ยง เพื่อรอฝนที่จะตกลงมาเพิ่มปริมาณน้ำมูลให้สูงขึ้น เพียงพอต่อการเลี้ยงปลากระชังให้เจริญเติบโตเต็มวัยส่งขายได้มีกำไร เพราะเกษตรกรแต่ละรายต้องลงทุนในการเลี้ยงปลากระชังรายละไม่น้อยกว่าแสนบาท แต่จนจะสิ้นฤดูฝนแล้วปริมาณน้ำยังน้อยทำให้เกษตรกรไม่เสี่ยงเพราะเกรงว่าจะขาดทุน
กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แม่น้ำมูล บ้านท่าเรือ  ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์




กำลังโหลดความคิดเห็น