xs
xsm
sm
md
lg

ทหาร “ทภ.2” ร่วม “สปช.” ลุยสอบที่ดิน “ธาริต” ฮุบเขาปากช่อง ชี้ชัดได้มาโดยมิชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษากฎหมาย ทภ.2พร้อม นายประสาร  มฤคพิทักษ์ สปช. และคณะ เข้าตรวจสอบที่ดินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี DSI ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหาร ทภ.2 พร้อม สปช.ประสาร นำคณะลุยสอบที่ดินของ “ธาริต” ชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม อ.ปากช่อง โคราช ชี้ชัดได้มาโดยมิชอบผิด กม.อื้อ พบแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานฮุบที่ดินนิคมฯ ลำตะคอง อ้างมีอาชีพเกษตรกรรมรายได้ปีละ 8 หมื่น และยังนำพื้นที่ข้างเคียงออกโฉนดอีกกว่า 400 ไร่ ด้าน สปช.ประสาร ระบุจับตาการดำเนินการของนิคมฯ และ ส.ป.ก. ขณะผู้ปกครองนิคมยอมรับวัดพื้นที่เกินจริงกว่า 30,000 ไร่

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษากฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) พร้อม นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่ดินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) 2 จุด ที่บ้านมอทรายทอง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และที่ดินที่ใช้สำหรับฝึกภาคสนามของศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี บริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง ซึ่งปรากฏชื่อ นายธาริต และ นายเสรษฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ น้องชาย มีชื่อเป็นเจ้าของรวมกับคนอื่นๆ อีกหลายคน

โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพทางกายภาพลาดชันเกิน 35 องศา เป็นพื้นที่หลวงที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ โดยขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่พบคนงาน 12 คนกำลังทำการก่อสร้างรีสอร์ต พ.อ.สมหมายได้สั่งให้ทหารควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนในค่ายทหาร

พ.อ.สมหมายเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการได้มาของที่ดินแปลงดังกล่าวพบว่าอยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งนายธาริตได้มาขณะที่รับราชการในตำแหน่งพนักงานอัยการ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีการทำคำร้องขอหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.2) เพื่อขอออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) และอ้างว่ามีอาชีพเกษตรกรรม และมีรายได้ปีละ 80,000 บาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขที่จะมีที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคองตาม พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ซึ่งเป็นการให้การเท็จ

ต่อมาได้มีการออก น.ค.3 ให้นายธาริต จากนั้นนายธาริตได้มอบอำนาจให้ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา นำ น.ค.3 มายื่นขอออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 61365 ต.วังไทร เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของนายธาริตเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

นอกจากนี้ ที่ดินที่มีพื้นที่ติดกันและมีอาณาเขตอยู่ในพื้นที่เดียวกันและกำลังมีการก่อสร้างรีสอร์ต นายเสรษฐวุฒิ น้องชาย และ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นมาออกโฉนด ซึ่งรวมที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคองที่ยังไม่ได้มีการจัดสรรให้แก่ราษฎร รวมเนื้อที่ทั้งหมด 405 ไร่

“การกระทำดังกล่าวของนายธาริต ถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งมีความผิดในการเข้าไปแผ้วถางทำลาย ทำให้เป็นอันตรายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตนิคม ตามมาตรา 15 และมีความผิดตามมาตรา 41 พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ” พ.อ.สมหมายกล่าว

พ.อ.สมหมายกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งนิคมสร้างตนเองลำตะคองได้ออก น.ค.3 นอกเขตพื้นที่ของตนเอง ตามประกาศคณะปฏิวัติ พ.ศ. 2515 โดยได้มีการรังวัดเข้าไปในพื้นที่ ส.ป.ก. และยังพบว่านายธาริตได้ทำการรังวัดเพื่อออก น.ค.3 ในพื้นที่ ชะง่อนผา หมู่บ้านนายพล ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ด้วย

ด้านนายประสารกล่าวว่า การดำเนินการของนายธาริตถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน หลังจากนี้ตนจะติดตามการแก้ไขปัญหาของทางนิคมฯ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการเพิกถอนพื้นที่คืน และตนจะเสนอในที่ประชุม สปช.ให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริต และเสนอให้แยกการปฏิรูปด้านสิ่งแวดล้อมออกจากด้านสาธารณสุขด้วย

ขณะที่ นายอภิชาติ นาทวี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการวัดที่เขตพื้นที่นิคมเมื่อปี 2537 ที่มีการวัดพื้นที่เกินกว่าพื้นที่จริงกว่า 30,000ไร่ และมีการออก น.ค.3 ให้ชาวบ้านไปบางส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าจะให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างไรกับพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น