ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “พิงคนคร” จัดเวทีรับฟังความเห็นส่งท้ายโครงการศึกษาและออกแบบก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าดอยสุเทพ มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านเข้าร่วม สรุปได้เส้นทาง “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-บ้านทุ่งโป่ง-ดอยปุย-ดอยผาดำ” ระยะทาง 12 กิโลเมตร โดยฝ่ายค้านชูป้ายเรียกร้องล้มเลิกโครงการ ชี้ไร้ความจำเป็นและทำลายความสมบูรณ์ผืนป่าดอยสุเทพ ย้ำต่อสู้ถึงที่สุดและเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง ขณะที่ฝ่ายหนุนเชื่อส่งผลดีการท่องเที่ยว ชี้ไม่ได้เป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แนะมองอย่างวิทยาศาสตร์-ไม่งมงาย
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาและออกแบบก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า (Cable Car) เชื่อมโยงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-ดอยปุย-ดอยผาดำ ของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ซึ่งดำเนินการศึกษาสำรวจและออกแบบ รวมทั้งจัดทำร่างรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอนเสร็จแล้ว จึงจัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ขึ้นโดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 250 คน
ทั้งนี้ จากการศึกษาที่มีการกำหนดแนวทางเลือกเส้นทางไว้ 6 ทางเลือกหลัก ทุกทางเลือกจะพาดผ่านอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีจุดเริ่มเดียวกันทั้งหมดจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และมีจุดสิ้นสุดที่บ้านม้งดอยปุย และดอยผาดำ ได้มีการสรุปผลการประเมินวิเคราะห์แล้วทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ได้แก่ เส้นทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-บ้านทุ่งโป่ง-ดอยปุย-ดอยผาดำ รวม 4 สถานี ระยะทางรวมประมาณ 12 กิโลเมตร และตลอดทางจะมีเสาทั้งหมดจำนวน 42 ต้น ค่าก่อสร้างประมาณ 2,314 ล้านบาท
โดยนายอดุลย์ อิสลาม ผู้จัดการโครงการศึกษาและออกแบบก่อสร้างกระเช้าลอบฟ้า (Cable Car) เชื่อมโยงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-ดอยปุย-ดอยผาดำ กล่าวว่า การศึกษาตามโครงการมีการดำเนินการอย่างครอบคลุมรอบด้าน และมีการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมจนกระทั่งดำเนินการแล้วเสร็จและได้ทางเลือกที่มีความเหมาะสมที่สุด เพื่อนำเสนอให้ผู้มีส่วนได้เสียได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จากนั้นจะมีการนำเสนอผลการศึกษาเพื่อให้ผู้มีอำนาจพิจารณาตัดสินใจต่อไปว่าจะดำเนินโครงการหรือไม่
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนุชาติ ธนัญชัย ผู้ประสานงานกลุ่มคนเชียงใหม่ไม่เอากระเช้าไฟฟ้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาแสดงจุดยืนหนักแน่นมาโดยตลอดในการคัดค้านการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยสุเทพ เนื่องจากไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีกระเช้าลอยฟ้าเพื่อสร้างจุดขายทางการท่องเที่ยวแต่อย่างใด ส่วนปัญหาการเดินทางขึ้นดอยสุเทพและการจราจรที่ติดขัดในช่วงเทศกาลต่างๆ นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องของการบริหารจัดการซึ่งหากทำได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ไร้ปัญหา
ทั้งนี้ ย้ำด้วยว่าพื้นที่ดอยสุเทพนั้นเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวสูงและเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม ดังนั้น การสร้างกระเช้าลอยฟ้าจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการทำลายสภาพของดอยสุเทพลงอย่างสิ้นเชิงและไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
นอกจากนี้ยังถือได้ว่าดอยสุเทพเป็นศาสนสถานและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่เคารพศรัทธาช้านานอีกด้วย การสร้างกระเช้าลอยฟ้าจึงเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กลุ่มคนเชียงใหม่ไม่เอากระเช้าไฟฟ้ายืนยันว่าจะคัดค้านการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวจนถึงที่สุดและพร้อมจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองทันทีหากมีการอนุมัติให้ดำเนินโครงการก่อสร้าง
ขณะที่ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร นักวิชาการอิสระ แสดงความเห็นสนับสนุนโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยสุเทพ โดยระบุว่าเป็นทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยว และไม่เป็นห่วงว่าจะเป็นการทำลายพื้นที่ป่าไม้ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความทันสมัยมากพอที่จะก่อให้เกิดผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตลอดจนมองว่าการที่มีกระเช้าลอยฟ้าผ่านพื้นที่ป่าจะส่งผลดีในการอนุรักษ์มากกว่า เพราะจะทำให้ไม่มีผู้กล้าบุกรุก ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับการเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของดอยสุเทพนั้นเห็นว่าการสร้างกระเช้าลอยฟ้าไม่ได้เป็นการลบหลู่ใดๆ ทั้งสิ้น และอยากให้มองอย่างเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่างมงาย
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้มีการแสดงความเห็นทั้งการสนับสนุนและคัดค้านการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยสุเทพ โดยฝ่ายที่สนับสนุนมองว่าจะได้รับผลประโยชน์เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่จากการท่องเที่ยว
ขณะที่ฝ่ายคัดค้านมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ป่าและระบบนิเวศทางธรรมชาติดอยสุเทพ รวมทั้งไม่เชื่อว่าจะเกิดผลดีตามที่มีการกล่าวอ้าง เนื่องจากมีประสบการณ์มาแล้วจากหลายโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ผ่านมา
ตลอดจนมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการศึกษาและจัดเวทีในครั้งนี้ด้วยว่าดำเนินการอย่างถูกต้องโปร่งใสหรือไม่ ทั้งนี้ทางฝ่ายคัดค้านยังมีการชูป้ายคัดค้านโครงการนี้ที่บริเวณหน้าห้องที่จัดเวทีประชุมครั้งนี้ด้วย
