กาญจนบุรี - นายอำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี โบกมือลาประชาชนชาวสังขละฯ พร้อมกราบไว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และสักการะพระบรมรูป ร.3 หลังอธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่กองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.นี้ โดยให้ไปดูงานโครงการพระราชดำริของกรมการปกครอง แทน เผยเป็นนายอำเภอที่ชาวบ้านรัก และร่วมต่อสู้การสร้าง “สะพานมอญไม้” คู่กับชาวบ้านมาตลอด
จากกรณี นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง เซ็นคำสั่งโยกย้าย นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ไปช่วยราชการที่กองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง เป็นประจำ โดยมอบหมายให้รับผิดชอบงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของกรมการปกครอง มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2557 นี้เป็นต้นไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) ที่หน้าที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีประชาชนทั้งชาวไทย ชาวมอญ ไทยรามัญ ข้าราชการ พนักงานประจำอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีจำนวนมาก เดินทางไปมอบดอกไม้ และพวงมาลัยดอกดาวเรือง ให้เป็นกำลังใจต่อ นายชาธิป รุจนเสรี พร้อมทั้งถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
โดย นายชาธิป ได้ถือฤกษ์เวลา 08.39 น. เดินทางออกจากพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เพื่อมากราบไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 3 ถนนหลักเมือง ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีชาวอำเภอสังขละบุรี เดินทางมาส่ง และมี นายพิศิษฐ์ ยินดีวี เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมสมาชิก พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อยืดสัญลักษณ์สะพานมอญ 10 ล้านบาท มาให้การต้อนรับ และให้กล่าให้กำลังใจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย
นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ท่านอธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งย้ายให้ตนไปช่วยราชการในกรมการปกครองโดยให้ดูแลงานเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริของกรมการปกครอง ซึ่งตรงนี้ตนมองว่าท่านอธิบดีคงเล็งเห็นว่าตนมีความสามารถ และเหมาะสมที่จะเข้าไปดูแลโครงการนี้ ตนและครอบครัวรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้าไปรับใช้ และทำหน้าที่ดูแลโครงการพระราชดำริของในหลวง ซึ่งจากคำสั่งดังกล่าวทำให้บางครั้งประชาชนเข้าใจว่าตนถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกรังแก ขอเรียนประชาชนว่าไม่ใช่ แต่เป็นเกียรติที่สูงส่งต่อตนเอง และวงศ์ตระกูลด้วย และตนคิดว่าเมื่อมีโอกาสเข้าไปอยู่ตรงนั้น คงจะทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้มากกว่าที่เป็นอยู่
สำหรับเรื่องคาใจเกี่ยวกับการสร้างสะพานมอญนั้น ขอเรียนว่า ไม่มีอะไรคาใจอีกแล้วเพราะภาระกิจการดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานได้เสร็จสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และมีการเชื่อมต่อสะพานทั้ง 2 ฟากฝั่งเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงเก็บรายละเอียดอีกไม่มากนัก และภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ก็พร้อมที่จะจัดพิธีทำบุญเพื่อเฉลิมฉลองกัน
สำหรับวิกฤตความขัดแย้งในระหว่างซ่อมบูรณะสะพานปัจจุบันไม่มีแล้ว ทุกอย่างกลับคืนมาเป็นพลังแห่งความศรัทธาตามเดิมแล้ว ตึงอยากให้วิกฤตที่เคยเกิดขึ้นเกี่ยวกับการซ่อมบูรณะสะพาน นำไปเป็นตัวอย่างแก่สังคมไทยในการแก้ปัญหา
ส่วนกรณีการจ่ายเงิน จำนวน 10 ล้านบาท เป็นเรื่องของทางจังหวัดกับบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งจะต้องนำไปแก้ไขปัญหากัน และเท่าที่ผ่านมา ในความเห็นของนักกฎหมายก็ยังมีมุมมองที่แตกต่างกัน นักกฎหมายบางท่านบอกไม่สามารถจ่ายได้ แต่นักกฎหมายบางท่านบอกว่าจ่ายได้ ซึ่งตรงนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
สำหรับเรื่องปัญหาคอร์รัปชันความจริงทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ก็ขอให้ประชาชนคนไทยมาช่วยกันตรวจสอบ เชื่อว่าปัญหาการทุจริตบางอย่างไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ หากประชาชนคนไทยทุกคนช่วยกัน
นายพิศิษฐ์ ยินดีวี เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้ไปออกรายการทีวีชองหนึ่ง และได้การโฟนอินคุยกับเลขาธิการ ป.ป.ช.ทราบว่า ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินการเรื่องของสะพานเอาไว้แล้ว และสามารถนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบได้ และกำลังดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล และหลักฐานต่างๆ และตนได้ถามว่านายอำเภอสังขละบุรี ถูกย้ายด่วน ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากเลขาธิการ ป.ป.ช.ว่า จะเชิญท่านนายอำเภอมาเป็นพยานด้วย เชื่อว่าประชาชนชาวอำเภอสังขละบุรี คงจะได้รับรู้เรื่องดังกล่าว และคงจะได้ต้อนรับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ในเร็วๆ นี้
สำหรับกลุ่มภาคประชาสังคมของเรา ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่าท่านนายอำเภอสังขละบุรี ถูกสั่งให้ย้ายเข้ากรม ก็รู้สึกเศร้าใจ แต่เมื่อเรามองภาพรวมแล้ว จะมองเห็นได้ว่าท่านได้เข้าไปดูแลงานโครงการพระราชดำริ ซึ่งท่านมีหน้าที่ทำงานรับผิดชอบมากขึ้นกว่าการที่เป็นนายอำเภอสังขละบุรีเสียอีก
ดังนั้น กลุ่มของเราจึงยินดีที่ท่านจะได้ทำประโยชน์ให้แก่คนไทยมากขึ้น ซึ่งเราจะทำเรื่องโครงการพระราชดำริเสนอไปยังกรมการปกครอง เพื่อให้ท่านอดีตนายอำเภอสังขละบุรี เดินทางลงมาดูโครงการพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอีก ดังนั้น เราจึงมองว่า ท่านนายอำเภอโชคดีที่ถูกย้ายด่วน และย้ายเข้าไปดูแลโครงการพระราชดำริโดยตรง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ครั้งแรกเราเสียใจแต่ตอนนี้เราดีใจที่จะได้ร่วมงานกับท่านมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันปัจจุบันนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศของเรา ดังนั้น เครือข่ายภาคประชาคมของเราจะดำเนินการเรื่องนี้ให้จริงจังมากขึ้น และจากการทุจริตในประเทศไทยเป็นกลายเป็นเนื้อเน่าไปแล้ว เพราะฉะนั้น เราจะต้องมาร่วมแรงร่วมใจสอดส่องสืบเสาะหาหลักฐานหาข้อมูล เพื่อไปสู่กระบวนการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศต่อไป และยิ่งรัฐบาล คสช.เอาจริงในเรื่องนี้ เชื่อว่าคนทุจริตคอร์รัปชันจะอยู่ไม่ได้แน่นอน
ด้าน พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม ผบ.ช.พัน 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ วิศวกรคุมงานซ่อมบูรณะสะพานอุตมานุสรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันงานคืบหน้าไปแล้ว 98.2 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงแค่เก็บงานรายละเอียดเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของสะพานเท่านั้น และพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมทั้งประชาชนรวมทั้งจิตอาสา และนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกันลงมือทาสีของสะพานทั้งหมด และก่อนวันที่ 18 ต.ค. งานทุกส่วนจะแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
รายงานแจ้งว่า ปัจจุบันโรงแรม และรีสอร์ตต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ถูกนักท่องเที่ยวจองเต็มเกือบหมดแล้ว ซึ่งทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ เดินทางไปร่วมทำบุญครั้งใหญ่ที่สะพานแห่งนี้ เชื่อว่าชาวอำเภอสังขละบุรี จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวหลายล้านบาทอย่างแน่นอน