ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เปิดใจ“เอกราช ช่างเหลา”สปช.ขอนแก่นที่คนพากันยี้ค่อนเมือง ด้วยข้อกังขาเป็นท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดงเหตุใด คสช.เลือกเข้าไปร่วมปฏิรูปประเทศ เผยเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ถูก ศอฉ.ยุคแดงเผาเมืองสั่งระงับธุรกรรมการเงิน ซ้ำโยงธุรกิจร่วม “ผู้กองตุ๋ย” อดีตทหารขาโหดคนสนิทเสธไอซ์
ทันทีที่มีรายชื่อ นายเอกราช ช่างเหลา ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้รับโปรดเกล้าเป็น1ในสมาชิกสภาปฏิรูปหรือ สปช. ในสื่อออนไลน์ แวดวงสังคมเมืองหมอแคนต่างวิพากษ์วิจารณ์รับไม่ได้กับบทบาทที่เขาได้รับเลือกให้ทำหน้าสำคัญดังกล่าวในฐานะตัวแทนชาวขอนแก่น ด้วยเหตุความไม่เหมาะสมหลายประการ บ้างตั้งคำถามว่า...ที่ผ่านมาเขาเคยทำคุณประโยชน์ใดต่อสังคมเมืองขอนแก่น ? บ้างบอกว่าเขาเป็นแค่พ่อค้านักธุรกิจที่ชอบสร้างภาพ
ในขณะที่คนจำนวนไม่น้อย ฟันธงว่าเขาคือคนของพรรคเพื่อไทย ฝักใฝ่ระบอบทักษิณ เป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ !! หัวเมืองใหญ่อย่างขอนแก่นหมดสิ้นคนดีคนเก่งแล้วหรือ! และต่างเชื่อและเข้าใจว่าเพราะอำนาจเงินและเส้นสายที่วิ่งเต้นทำให้เขาถูกล็อกให้เป็น สปช.จังหวัดขอนแก่น!
ด้วยข้อกังขาที่คาใจต่างๆข้างต้น จากการนัดสัมภาษณ์พิเศษ นายเอกราช ยอมรับว่าหลังมีประกาศรายชื่อของตนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติก็มีกระแสต้านในพื้นที่ออกมาทันที เป็นเสียงค้านที่ผ่านสื่อออนไลน์มากกว่าและไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมีคนขอนแก่นกี่มากน้อยที่รู้สึกไม่ดีกับตนเช่นนั้น แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่แสดงความยินดี ตัวเขาเองก็พอรู้ที่มาที่ไปของกระแสสังคมที่ไม่ยอมรับกับบทบาทใหม่ทางสังคมในฐานะสปช.ตัวแทนชาวขอนแก่น
นายเอกราชอธิบายถึง “กระแสยี้”ของสังคมว่า เป็นผลจากข่าวคึกโครมผ่านสื่อทุกแขนงกรณีที่เขาเป็น 1 ในกลุ่มรายชื่อบุคคล-นิติบุคคลที่ ศอฉ.หรือศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการ ออกหนังสือคำสั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงินฐานความผิดเป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.53
"เป็นความเข้าใจผิดของศอฉ.เงินกว่า 600 ล้านที่ถอนจากแบงก์คราวนั้น ผมจะนำไปจ่ายให้กับกองสลากเป็นค่าโคว้ตาลอตเตอรี่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นได้มา กองสลากเขาไม่รับเช็ค ผมในฐานะผู้จัดการสหกรณ์ก็ต้องเป็นคนเซ็นต์เบิกจ่าย”นายเอกราชกล่าวและเล่าต่อว่า
หลังจากเข้าไปชี้แจงแสดงหลักฐานที่มาที่ไปของเงินก้อนดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นาน ทางศอฉ.ก็ได้คัดชื่อออกจากบัญชี แต่ไม่เป็นข่าว ภาพลักษณ์ที่เสียไปตอนแรกก็ยังอยู่ในความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ก็ยังเข้าใจผิดว่าตัวเขาคือคนสนิทของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการชุมนุมต้านรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดงในขอนแก่นหรือภาคอีสาน
เขายังยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยให้การสนับสนุนการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงแม้แต่ครั้งเดียว และยอมรับว่า อดีต ส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่ก็คุ้นเคยกันดีเพราะเป็นพรรคพวกอยู่ในสังคมเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค ในทางกลับกันอาจเรียกได้ว่าในทางการเมืองแล้วเขาอยู่ฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทยด้วย ซ้ำเพราะให้การสนับสนุนนายปัญญา ศรีปัญญา อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย และตอนเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดก็อยู่เบื้องหลังดูแลช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินในทุกเขตที่ส่งลงแข่งแต่ก็แพ้พรรคเพื่อไทย
นายเอกราชเล่าว่า สนามเลือกตั้งใหญ่หลายปีก่อนโน้น ตนก็เคยลงสมัครทั้ง ส.ว.และส.ส. แต่ก็สอบตกเพราะสู้คนของอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณที่ลงสมัครไม่ได้ หลังจากนั้นก็ถอยมาอยู่เบื้องหลังงานการเมืองนอกจากนี้แล้วยังทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการในพื้นที่ภายใต้ชื่อบริษัทหนึ่งนคร จำกัด และด้วยงานธุรกิจนี้เองทำให้ได้มีโอกาสรู้จักสนิทคุ้นเคยกับ “ผู้กองตุ๋ย” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตทหารต้องคดีอาญาชื่อดัง คนสนิทของ “เสธ.ไอซ์”ถึงขั้นเคยลงขันทำธุรกิจซื้อขายที่ดินผืนใหญ่ย่านรังสิต-ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงผลประโยชน์ทางธุรกิจกับ “ผู้กองตุ๋ย”นี้เองทำให้นายเอกราชสามารถบริหารคอนเน็กชั่นเชื่อมเข้าหานายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพัน นายพลได้ไม่ยากและในที่สุดก็หนุนส่งให้เขาได้เข้าไปนั่งในบอร์ดการประปานครหลวง จนทำให้หลายคนงงเป็นไก่ตาแตกมาแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับเลือกเป็น สปช. เอกราชบอกว่าได้ลาออกจากบอร์ดการประปานครหลวงแล้ว
ส่วนตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น และ ประธาน อกคศ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 1รวมถึงตำแหน่งทางสังคมอีกหลายตำแหน่งยังคงอยู่ เพราะตามระเบียบไม่ได้ห้าม
เมื่อถามต่อว่าหากเทียบคุณสมบัติตัวเขากับผู้สมัครรับการสรรหาสปช.ขอนแก่นคนอื่นๆอีกเกือบ 30 คน คิดว่าจุดเด่นใดที่ทำให้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย เอกราชบอกว่าน่าจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่หลากหลายทั้งด้านการเมือง สังคมและคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการศึกษามานาน
ขณะที่ช่วงแสดงวิสัยทัศน์นั้น ตนได้เน้นย้ำในประเด็นที่ว่าหากต้องการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุดหน้าอย่างยั่งยืน ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาแต่ละด้านอย่างถาวร ให้ลงลึกถึงรากเหง้าของปัญหา ทั้งนี้ต้องใช้ความอดทน เหมือนกับการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกจากร่างกายก็ต้องยอมเจ็บบ้าง
“อีกประเด็นหนึ่งที่เชื่อว่าไม่มีใครในกลุ่มผู้สมัครรับการสรรหาพูดถึงตอนแสดงวิสัยทัศน์คือผมประกาศออกไปเลยว่า หากได้รับเลือกเป็น สปช.เพื่อนๆที่สมัครคัดสรรอีก 30 คนนั้นผมจะเชิญมาร่วมเป็นคณะทำงานด้วย ร่วมกันคิดร่วมกันทำ ใครมีแนวคิดอะไรดีๆก็เสนอออกมา ประเด็นนี้น่าจะเป็นจุดต่างที่กลายเป็นจุดเด่นของผม”นายเอกราชกล่าวและว่า
ในฐานะที่ได้มีโอกาสเข้าไปเป็น สปช. ตนอยากจะเสนอผลักดันให้ไทยปฏิรูปงานด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องปฏิรูปในอันดับต้นๆจากประสบการณ์ที่คลุกคลีเกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษามานานทำให้เห็นปัญหาที่หมักหมมเยอะมาก จนทำให้ปัจจุบันคุณภาพการศึกษาต่ำ ถูกจัดอยู่ในอันดับท้ายๆกลุ่มประเทศอาเซี่ยน
อย่างไรก็ตาม นายเอกราชบอกทิ้งท้ายว่าแม้ตอนนี้ตัวเขาจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมสักเท่าไหร่กับสถานะใหม่ในฐานะ สปช. แต่ก็พยายามเข้าใจเพราะภาพลักษณ์มันฝังในทัศนคติของคนในสังคมไปแล้ว ซึ่งก็พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองกับภารกิจที่ได้รับจาก คสช.
คิดและเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า “ของปลอมไม่ทนต่อการพิสูจน์”!!!