ส.อ.ท.ชี้เอสเอ็มอีพึ่งตลาดในประเทศวิกฤตหนัก โดนวิกฤตการเมืองกระทบยอดขาย ฉุดกำลังการผลิตลง 64% คาดจีดีพีปี 57 เหลือ 3% ด้านภาคเอกชนไม่พอใจถูกกล่าวหาท่อน้ำเลี้ยง กปปส. เชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล รัฐฯ ไม่ควรก้าวก่าย
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากความขัดแย้งการเมืองในขณะนี้ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่พึ่งพาตลาดภายในประเทศเริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากความมั่นใจของผู้บริโภคลดลง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง เห็นได้จากยอดเข้าพักโรงแรมในเขตกรุงเทพฯ จากปกติ 70-80% ลดลงเหลือเพียง 10-20% ส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตสินค้าที่เป็นแบรนด์ภายในประเทศมียอดขายลดลงกว่า 50% ซึ่งจะฉุดยอดกำลังการผลิตสินค้าโดยรวมในปีนี้ลดลงจากเดิม 64% เหลือ 58-60% ทำให้คาดว่าจีดีพีของไทยในปีนี้จะอยู่ในระดับ 3% ต่ำกว่าอัตราจีดีพีโลกที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6%
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลจะเข้ามาตรวจสอบบัญชีธุรกรรมทางการเงินของบริษัทเอกชนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับ กปปส.นั้น อาจทำให้ผู้ประกอบการบางกลุ่มไม่พอใจ ซึ่งภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลตรวจสอบบริษัทเหล่านี้อย่างโปร่งใส ซึ่งมองว่าการที่บริษัทบางแห่งให้การสนับสนุน กปปส. หรือกลุ่มการเมืองต่างๆ เป็นสิทธิส่วนตัวหรือไม่ จะต้องตีความในจุดนี้ให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำองค์กรเอกชนต่างๆ เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย หรือสมาคมอื่นๆ ที่เข้ามาร่วมกับ 7องค์กรธุรกิจเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นเข้ามาทำงานในนามส่วนตัว ไม่ได้นำองค์กรธุรกิจของตนเองเข้ามาร่วม และการดำเนินงานที่ผ่านมาคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถไปเจรจากับคู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆ ได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่ควรนำองค์กรธุรกิจต่างๆ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในสหรัฐฯ และยุโรป จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *