หนุ่มไทยถูกแก๊งเขมรรีดค่าไถ่ซ้อมปางตาย

สระแก้ว - หนุ่มไทยถูกแก๊งเขมรรีดค่าไถ่ซ้อมปางตาย หลังถูกกักตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง กรุงปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้เข้าช่วยเหลือ นายเทอดปรัชญา เหล่ามา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.8 ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ถูกกักขังตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง กรุงปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา อยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 10 กม. ซึ่งมีนายเล็ง ก๊กชาย (ตร.) เป็นเจ้าของ

โดย นายเทอดปรัชญา เหล่ามา ถูกกักขังไว้ที่บ้านพักคนงานข้างสวนอาหาร ถูกซ้อมได้รับบาดเจ็บที่บาดแผลบริเวณกลางหลัง แผลฟกซ้ำราวนมซ้าย หน้าท้อง แผลรัดที่ข้อมือ และข้อศอกซ้ายขวา แผลฟกซ้ำทั่วร่างกาย ถูกนำส่งกลับเข้าไทยทางจุดผ่อนปรนบ้านหนองปรือ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ และส่งต่อไป รพ.สระแก้ว

จากการสอบถาม นางลภัทรดา ไชยเขตอุธรณ์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของนายเทอดปรัชญา เผยว่า ตนทราบเรื่องจากแม่ของ นายเทิดปรัชญา ว่า หลานชายถูกพวกเขมรจับไปเรียกค่าไถ่ จึงได้ชวนพรรคพวกเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงภายใน จ.สระแก้ว และได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาวางแผนเข้าช่วยเหลือ

โดยส่งกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นซุ้มที่ซ่องสุมของเสี่ยชาย และนายโซเฟีย แต่เสี่ยชายไหวตัวทัน พานายเทอดปรัชญา มาโยนทิ้งไว้บริเวณทางออกด่านหนองปรือ บ้านหนองปรือ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ นายเทอดปรัชญา ในสภาพบอบช้ำอย่างหนัก ได้พยายามฝืนสังขารเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ด่านหนองปรือ นำตัวส่งโรงพยาบาลอรัญประเทศ

ด้าน นายเทิดปรัชญา เผยว่า ตนถูกล่อลวงให้เข้าไปหานายชาย ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊งชาวกัมพูชา ซึ่งนายชาย ได้เปิดธุรกิจร้านอาหาร และรีสอร์ตขนาดใหญ่ อยู่ในฝั่งปอยเปต ของกัมพูชา ตนเองหลงเชื่อจึงข้ามไปหานายชาย ที่ด่าน ตม.ของเขมร ก่อนที่จะถูกนายโซเฟีย ลูกน้องมือขวาของนายชาย และลูกสมุนอีก 7 คน อุ้มขึ้นรถแล้วใช้ผ้าผูกปิดตา และปิดปากนำไปกักขังห่างจากปอยเปตไปประมาณ 10 กิโลเมตร

หลังจากนั้น ก็ลงมือซ้อม ทั้งกระทืบ เตะ และใช้ไม้หน้าสามตีจนตนเองน่วม พร้อมทั้งบอกให้โทรศัพท์ไปหาญาติ ให้นำเงินมาไถ่ตัว จำนวน 1 ล้านบาท ตนเองบอกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ทางนายชาย ก็ไม่เชื่อ สั่งให้ลูกน้องซ้อมตนอีก และให้ดื่มปัสสาวะแทนน้ำ โดยตนถูกหลอกจับตัวมาไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.57 เวลา 3 ทุ่ม และถูกนำตัวไปกักขัง

จนกระทั่งวันที่ 4 ต.ค. เสี่ยชาย จึงให้ตนโทรศัพท์ไปบอกทางบ้านให้นำเงินมาไถ่ตัว 1 ล้านบาท เมื่อไม่ได้ก็ลดลงมาเหลือ 5 แสนบาท แต่ตนก็ไม่มีให้อีก เสี่ยชายจึงลดเหลือ 3 แสนบาท

อยากฝากเตือนชาวไทยว่า การที่จะไปทำอะไรที่ฝั่งกัมพูชาให้คิดทบทวน และไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเอาชีวิตไปทิ้ง เพราะสมัยนี้เชื่อใจใครไม่ได้

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกับแหล่งข่าวในพื้นที่ชายแดน ทราบว่า เสี่ยชาย คนนี้มีอิทธิพลสูงมากในปอยเปต และอาจมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายอย่างอื่นอีกด้วย