สระแก้ว - ม็อบพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชายุติแล้ว หลังผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินไปเจรจาร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อหาทางออก สุดท้ายได้ข้อยุติ ให้ทั้งสองฝ่ายเปิดประตูด่านพรมแดนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยให้ไทยกลับไปใช้กฎระเบียบที่ปรับเปลี่ยนในเรื่องของการจัดระเบียบการเก็บภาษีแบบไปเดิมก่อน ส่วนกรณีการนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาก็ต้องว่าไปตามกฎหมายของไทย
จากกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวกัมพูชานับร้อยคน ปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต ฝั่งกัมพูชา เหตุไม่พอใจไทยจับกุมชาวกัมพูชา 18 คน ลักลอบขนสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จนทำให้ทั้ง 2 ฝั่ง ไม่สามารถสัญจรไป-มา ได้ ขณะที่รถบรรทุกสินค้าจากไทยจำนวนมากที่จะนำสินค้าออกไปส่งในฝั่งปอยเปต ต้องจอดนิ่งอยู่ที่หน้าด่านจนการจราจรติดขัดยาวเหยียด
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (16 ส.ค.) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จ.สระแก้ว พ.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองเสนาธิการกองกำลังบูรพา เข้าประชุมเจรจาร่วมกับ นายโต ซิม ซาเรือน ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อมคณะ ประชุมหารือร่วมกันที่ทำการ ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงได้ข้อยุติให้ทั้งสองฝ่ายเปิดประตูด่านพรมแดนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยและชาวกัมพูชาที่ต้องการเดินทางผ่านเข้า-ออก และเพื่อระบายรถยนต์บรรทุกสินค้า ซึ่งสถานการณ์ได้กลับสู่ปกติ
ทั้งนี้ ผู้แทนฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงข้อกฎหมาย และกฎระเบียบที่ปรับเปลี่ยนในเรื่องของการจัดระเบียบการเก็บภาษี ซึ่งอาจทำให้ชาวกัมพูชายังไม่เข้าใจ ดังนั้น ก็จะนำกลับมาให้สู่ระบบเดิมก่อนแล้วค่อยอธิบาย และชี้แจงอีกครั้ง
ส่วนกรณีการนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาก็ต้องว่าไปตามกฎหมายของไทย ส่วนกรรมกรที่รับจ้างที่อาจไม่เข้าใจ และไม่รู้ข้อกฎหมายก็จะหาทางช่วยเหลือเนื่องจากกระทำการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนพ่อค้าแม่ค้า จำนวน 18 คน ให้ดำเนินคดีไปกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวมาจากขบวนมดงานที่ขนของหนีภาษีตามแนวชายแดน กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้แขมรประท้วง และปิดด่านในวันนี้มาจากพวกเสียผลประโยชน์จากการเก็บค่าปากระวางของพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่เข็นรถมาโดยก่อนหน้านี้ ทางศุลกากรสามารถเก็บได้เพียงวันละ 300,000 บาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันหลังมีการขจัดกลุ่มมาเฟียออกไป ศุลกากร สามารถจัดเก็บค่าปากระวางได้ถึงวันละ 3 ล้านบาท ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวไม่พอใจเพราะรายได้เสียไปจำนวนมหาศาล