ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาวบ้านชาวบ้านขามเปี๊ยกว่า 10 รายโร่แจ้งความตำรวจพร้อมขอสื่อมวลชนช่วย หลังถูกสาวแสบคนบ้านเดียวกันหลอกเชิดรถยนต์ 20 คัน มูลค่ากว่า 10 ล้านหนีลอยนวล อ้างนำไปให้เช่ากับหน่วยงานใน มข.วันละ 1,000 บาท สุดท้ายเหยื่อหลงเชื่อถูกเชิดรถ แถมมีหน้าขอต่อรองให้นำเงินมาไถ่รถคืนคันละ 80,000-100,000 บาท
วันนี้ (26 ก.ย.) นางฉวี ธารชัย อายุ 34 ปี ชาวบ้านขามเปี๊ย อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เข้าร้องต่อสื่อมวลชน หลังเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.อนุชิต พดุงชาติ พนักงานสอบสวนสภ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื่องจากถูกเพื่อนบ้านหลอกเอารถกระบะ 4 ประตู มิตซูบิชิ ทะเบียน กอ 6875 ขอนแก่น ไปเข้าโครงการเช่ารถกับสถาบันวิจัยลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ผ่านมาเกือบเดือนปรากฏว่าผู้ติดต่อและรถหายเข้ากลีบเมฆ ไม่ได้เงินค่าเช่าแม้แต่บาทเดียว
นางฉวีเปิดเผยว่า ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาถูก น.ส.สุรีย์ณิภา ภูริพัฒน์วัฒนกุล พร้อมด้วยนางปราณี สาระชัย มารดา ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันดีเพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เข้ามาทำทีว่าอยากได้รถไปเข้าโครงการของสถาบันวิจัยลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งอ้างว่ารถในโครงการไม่พอ ต้องการเช่ารถยนต์จำนวนมากให้ค่าเช่าวันละ 1,000 บาท พร้อมนำสัญญาที่มีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยให้ผู้เสียหายเซ็น
ตรวจสอบเอกสารแล้วเห็นว่าสัญญาที่นำมาให้เซ็นนั้นไม่เหมือนกับเอกสารเช่ารถทั่วไป แต่ไม่เอะใจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นญาติและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน จึงบอกให้นำสัญญาฉบับใหม่ที่มีลายเซ็นของอธิการบดีมาแทนฉบับดังกล่าว โดย น.ส.สุรีย์ณิภารับปากว่าขอเวลา 3 วัน เพื่อเดินเรื่องและจะนำเงินมาจ่ายค่าเช่า พร้อมสัญญาเช่ารถฉบับจริงให้เซ็น ซึ่งการหลอกลวงครั้งนี้มีผู้หลงเชื่อรวม 10 ราย รถ 20 คันมอบให้ น.ส.สุรีย์ณิภา
แต่ผ่านไป 1 สัปดาห์ น.ส.สุรีย์ณิภายังบ่ายเบี่ยง กระทั่งล่วงเลยไปถึง 1 เดือนก็ยังไม่ได้รับเงินค่าเช่ารถและสัญญาเช่า จึงเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า น.ส.สุรีย์ณิภาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย จึงได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.สุรีย์ณิภาเพื่อขอรถคืน ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ โดยเพื่อนบ้านบอกว่า น.ส.สุรีย์ณิภา พร้อมทั้งแม่และแฟนหนุ่ม ได้เก็บของออกจากบ้านไปตั้งแต่กลางดึก พร้อมล็อกประตูบ้านเงียบสนิท จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแล้ว จึงตัดสินใจแจ้งความดังกล่าว
ล่าสุด น.ส.นุ้ยซึ่งคาดว่าเป็นบุคคลในขบวนการเชิดรถ ได้โทรศัพท์เข้ามาต่อรองกับผู้เสียหาย โดยบอกว่าถ้าอยากได้รถยนต์คืนให้นำเงินสด 80,000-100,000 บาทมาจ่าย
เช่นเดียวกับนางเดือน ขุ่นจร อายุ 46 ปี ชาวบ้านโคกสูง ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนเป็น 1 ใน 10 ของผู้เสียหายที่ถูกเชิดรถในลักษณะเดียวกันกับนางฉวี โดยตนได้ให้กุญแจรถยนต์แก่ น.ส.สุรีย์ณิภาเองกับมือ เพราะเชื่อใจว่าเป็นคนรู้จักสนิทกับสามี โดยทำทีอ้างว่าจะนำรถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ ซึ่งรถที่หายไปเป็นรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู
ตอนนี้ตนอยากได้รถคืน ทุกวันนี้ร้องไห้เกือบทุกวัน ตั้งแต่ที่รถหายไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ต้องรับภาระผ่อนค่างวดรถ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว ฝากสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ และฝากเตือนไปยังประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อให้เซ็นเช่ารถยนต์ง่ายเกินไป แม้ว่าจะเป็นคนรู้จักหรือสนิทกันมากก็ตาม เพราะคนสมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้