สั่งเฝ้าระวังน้ำโขงเพิ่มระดับสูงขึ้นกว่าปกติ พายุ “คัลแมกี” จ่อถล่มซ้ำ

เชียงราย - กรมเจ้าท่าที่ 1 สาขาเชียงรายแจ้งให้เฝ้าระวังการปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหงจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะช่วงเกิดผลกระทบจากพายุ “คัลแมกี” อาจทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ เผยอนาคตควรมีการประสานขอข้อมูลการปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆ ของจีนให้มากขึ้นเพราะประเทศไทยอยู่ท้ายเขื่อนและได้รับผลกระทบเต็มๆ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 สาขาเชียงราย ได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด ในแม่น้ำโขงราชอาณาจักรไทย (ศปปข.) ว่า ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ ศปปข. และมี ศปปข.ส่วนหน้าอยู่ที่ท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน แห่งที่ 1 แจ้งว่าได้รับการประสานจากกรมบัญชาการประสานงาน 4 ประเทศ ซึ่งประจำอยู่ประเทศจีนว่า ทางสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนเชียงรุ้ง เมืองเชียงรุ้ง หรือจิ่งหง เขตปกครองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานว่าจะทำการระบายน้ำจากเขื่อนตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.-30 ก.ย.นี้ทำให้อาจมีผลให้ระดับน้ำสูงขึ้น

ทั้งนี้ กระแสการปล่อยน้ำจากเขื่อนดังกล่าวเคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4-11 ก.ย.ที่ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ระดับน้ำไม่ได้เพิ่มสูงเกินระดับล้นฝั่งที่ประมาณ 8.5 เมตร และระดับวิกฤตเกิน 11 เมตรตามที่หลายฝ่ายกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากมีกระแสว่าทางการจีนลดระดับการปล่อยน้ำลงและพายุฝนไม่ได้ตกเหนือเขื่อนซ้ำเติมอีกนั่นเอง

ด้านนายทรงกลด ดวงหาคลัง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 สาขาเชียงราย กล่าวว่า หนังสือจาก ศปปข.ดังกล่าวไม่ใช่การแจ้งเตือนภัย แต่ให้ช่วยกันเฝ้าติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในปัจจุบันที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 12 เชียงแสนก็ได้มีการตรวจวัดระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ระดับน้ำหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ลึกประมาณ 3.80 เมตร ต่อมาวันที่ 16 ก.ย.ลึกประมาณ 3.90 เมตร กระนั้นจากกรณีจะมีฝนตกไปจนถึงวันที่ 18 ก.ย.จากพายุคัลแมกีที่พัดผ่านเข้ามาในภาคเหนือและจีนตอนใต้ประกอบกับการปล่อยน้ำจากเขื่อนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

อย่างไรก็ตาม เราทำได้เพียงเฝ้าระวังและติดตามระดับน้ำเพราะประเทศไทยไม่อาจทราบข้อมูลเรื่องการปล่อยน้ำจากเขื่อนจีนอย่างเป็นทางการเลย

“ที่ผ่านมาต้องแสวงหาข้อมูลผ่านทางเรือเดินสินค้าจีน จึงคาดหวังว่าในอนาคตเราจะมีระบบที่สามารถทำให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์สำหรับแจ้งประชาชนได้อย่างชัดเจนต่อไป สำหรับครั้งนี้หากว่าระดับน้ำถึงระดับ 6 เมตรก็จะรีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบตามลำดับต่อไป” นายทรงกลดกล่าว

ด้านนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานเครือข่ายลุ่มน้ำภาคเหนือ กล่าวว่า ปัจจุบันนอกจากเขื่อนจิ่งหงแล้วพื้นที่ตอนบนขึ้นไปยังเป็นที่ตั้งของเขื่อนนัวจาตู้ ซึ่งกำลังก่อสร้าง ทำให้มีการปล่อยน้ำเมื่อมีระดับน้ำสูงหรือฝนตกหนัก เหนือขึ้นไปอีกยังมีเขื่อนต้าเฉาชาน เขื่อนมานวาน และเขื่อนเชียววานซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดอีก ในอนาคตจีนจะก่อสร้างเขื่อนกาลัมป้าและเขื่อนแมงชองอีก 2 แห่งใกล้กับชายแดน สปป.ลาว ท้ายน้ำเขื่อนจิ่งหงลงมาด้วย

“ความแตกตื่นจากระดับน้ำจากการปล่อยเขื่อนของคนไทยที่ผ่านๆ มา เพราะเราไม่อาจทราบข้อมูลการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนของจีน จึงเป็นข้อคิดว่าประเทศไทยควรจะเรียกร้องเพื่อให้ได้ข้อมูลพื้นฐาน เพราะเราเป็นประเทศท้ายน้ำที่อาจได้รับผลกระทบ” นายสมเกียรติกล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในปัจจุบันประเทศลุ่มแม่น้ำโขงนอกจากจะมี ศปปข.ซึ่งเน้นงานเรื่องความมั่นคงแล้วยังมีคณะกรรมการประสานการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำ ล้านช้าง-แม่น้ำโขง (JCCCN หรือ Joint Committee on Coordination of Commercial Navigation on the Lancang-Mekong River) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงด้วย