ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เหยื่อถูกหลอกนำรถยนต์เข้าโครงการเช่ารถวันละ 1,000 บาทแต่ถูกเชิดหนีขายต่อบ่อนพนัน รวมตัวเข้าร้อง DSI ภาค 4 ช่วยติดตามคดี หลังแจ้งความแล้วไม่มีวี่แววได้รถยนต์คืน มั่นใจเจ้าหน้าที่ ตร.มีเอี่ยวในแก๊งโจรตุ๋นเช่ารถ
ความคืบหน้ากรณี สภ.เมืองขอนแก่นรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับ นางสุรีย์นิภา ภูมิภัทร์วัฒนกุล (สาระชัย) อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 3 ต.อู่ทอง อ.เชียงยืน จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 57 ตามหมายศาลที่ 446/2557 มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หลอกเช่ารถยนต์วันละ 1,000 บาทแล้วขโมยรถหนีหาย ขายต่อบ่อนการพนัน โดยร่วมกันทำเป็นขบวนการ
ล่าสุดวันนี้ (14 ต.ค.) นางปาริชาต โม้ะแซง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 18 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 20 ราย เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 4 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อช่วยติดตามคดี โดยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ผู้เสียหายถูกนางสุรีย์นิภา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 3 ต.อู่ทอง อ.เชียงยืน จ.ขอนแก่น หลอกให้นำรถยนต์เข้าโครงการบริการเช่ารายวันในลักษณะเดียวกัน
นางสุรีย์นิภาถือเป็นหัวโจกในขบวนการเชิดรถที่อ้างตัวเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยขอนแก่นหลอกขอเช่ารถเข้าโครงการสถาบันวิจัยการลุ่มน้ำโขง
ขณะนี้มีรถของกลางสูญหายมากกว่า 20 คัน ผู้เสียหายบางส่วนนำเงินสดไปไถ่รถคืนมาได้ ซึ่งจะมี น.ส.นุ้ย น.ส.หลุ่น และหมอบี สมาชิกในแก๊งโทร.ติดต่อผู้เสียหายเพื่อต่อรองนัดไถ่รถคืนด้วยจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท/คัน เบื้องต้นรวมมูลค่ารถสูญหายเป็นเงินมากกว่า 20 ล้านบาท
นางจิราวรรณ กิ่งมาลา หนึ่งในผู้เสียหายชาวขอนแก่น เล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา ตนได้เข้าร่วมแผนติดตามจับผู้ต้องหาร่วมกับ ตร.สภ.เมืองขอนแก่น จำนวน 15 นาย เพื่อทำการล่อซื้อรถของกลางเป็นโตโยต้า วีโก้สมาท์แค็บ สีดำ โดยเตรียมเงินสดตามจำนวน 170,000 บาทที่ได้ต่อรองกับ น.ส.หลุ่น ที่ให้ไปรับรถที่เรือนพระยาพาเลซ (ริมบึงแก่นนคร) ซึ่งเป็นจุดรับรถ
แต่ปรากฏว่าคนร้ายไหวตัวทันทำให้ไม่ได้รถคืน เนื่องจากขณะทำการเข้าจับกุมคนร้ายตามแผนจู่ๆ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คนร้ายเปลี่ยนแผนคืนรถให้ผู้เสียหายจากรับรถครึ่งชั่วโมงเป็นอีก 3 ชั่วโมง ทั้งนี้คาดว่าตำรวจในจำนวน 15 นายมีเอี่ยวเป็นสายสืบให้ขบวนการนี้ เนื่องจากตำรวจไม่สามารถคุมตัวคนร้ายได้ และไม่มีการเข้าตรวจค้นในเรือนพระยาพาเลซ
จึงเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะคดียืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. 57 ทั้งที่หลักฐานทุกอย่างมีประจักษ์ฟ้องผู้ต้องหาทั้งขบวนการ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ สถานที่ทำงาน รหัสเลขที่โอนเงินเข้าบัญชี (โอนเงินไถ่รถ) ของผู้ต้องหา จึงรวมตัวกันทั้งหมด 8 คนร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภาค 4 หรือดีเอสไอ เพื่อขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีต่อไป