ประจวบคีรีขันธ์ - นายกรัฐมนตรีแห่งภาคตะนาวศรี พร้อมรัฐมนตรี ส่วนราชการ และนักธุรกิจจังหวัดมะริด เดินทางร่วมประชุมโครงการพัฒนาเพื่อการรองรับการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร และหารือการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งจะมีการลงนามที่เมืองเนปิดอ ผู้ว่าฯ ประจวบฯ คาดปลายปีนี้น่าจะเปิดเป็นด่านถาวรได้
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ห้องประชุมทศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอูเมี๊ยะ โก๊ะ (MR.U Myat Ko)นายกรัฐมนตรีแห่งภาคตะนาวศรี พร้อมด้วย นายอูซอละ วิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงชายแดนรัฐบาลภาคตะนาวศรี นายอูทิน โซว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป่าไม้และเหมืองแร่รัฐบาลแห่งภาคตะนาวศรี นายอูอ่อง คะยอตัน ผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด และส่วนราชการภาคตะนาวศรี มูด่อง มะริด ประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมเมืองมะริด พร้อมนักธุรกิจมูด่อง-มะริด รวมกว่า 60 คน
ได้เดินทางมาร่วมประชุมตามคำเชิญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “โครงการพัฒนาเพื่อการรองรับการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร และหารือการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง” โดยมี นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว และนักธุรกิจ เข้าร่วมประชุมพร้อมสื่อมวลชน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ถึงแม้ในปัจจุบัน ด่านสิงขร ยังไม่ได้ยกระดับเป็นด่านถาวรก็ตาม เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายการรับรองสำรวจภูมิประเทศของคณะกรรมการไทย-พม่า (JBC) ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานรอนัดหมายการลงนาม หากผ่านขั้นตอนนี้แล้วก็จะส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยประกาศเป็นด่านถาวรต่อไป
“ซึ่งในระหว่างรอนั้นก็มีการเตรียมการด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงส่วนราชการบริเวณด่านสิงขร และระบบสาธารณูปโภค ถนน ไฟฟ้า ลานจอดรถ ตลาดการค้า รวมทั้งการวางผังชุมชนบริเวณด่านสิงขร ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับการขยายตัวของการค้า การลงทุน สิ่งสำคัญความร่วมมือในระดับท้องถิ่นในการปรับปรุงถนนด่านสิงขร-ตะนาวศรี ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับขั้นตอนที่จะแล้วเสร็จประกาศเปิดเป็นด่านถาวร” ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังได้หารือร่วมกับทางฝ่ายพม่า ถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดเป็นด่านถาวร ทั้งเรื่องกิจกรรมวันเปิดด่าน ระยะเวลาจัดงาน สถานที่จัดงาน ซึ่งจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งจะได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดด่านถาวร โดยขอให้ทางฝ่ายพม่า เชิญผู้บริหารระดับสูงของของพม่า เป็นประธานคู่กับฝ่ายไทย รวมไปถึงให้มีการจัดงานเฉลิมฉลองที่บ้านมูด่อง ฝั่งพม่าด้วย รวมทั้งทางจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภาคเอกชน จะได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวประมาณ 100 คน เดินทางไปเที่ยวจังหวัดมะริด โดยรถยนต์เป็นการปฐมฤกษ์
ด้าน นายอูเมี๊ยะ โก๊ะ นายกรัฐมนตรีแห่งภาคตะนาวศรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังมีการหารือกับรัฐบาลไทย เรื่องการรับรองเขตแดนกันอยู่ และมีการสำรวจภูมิประเทศร่วมกันไปแล้ว ซึ่งในส่วนฝั่งของพม่า ได้มีการเปิดเป็นด่านถาวรไปแล้ว และมีเจ้าหน้าที่ตลอดจนศูนย์ราชการต่างเข้ามาทำงานที่บ้านมูด่อง แล้วเช่นกัน
สำหรับเรื่องถนนจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี และสะพานข้ามแม่น้ำตะนาวศรีนั้น ขณะนี้ได้ของบจากรัฐบาลกลางแล้ว อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเส้นทาง สำหรับการที่ฝั่งไทยจะเปิดด่านถาวรให้ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะได้นำเสนอไปยังรัฐบาลกลางในส่วนของประธานร่วมที่จะมาร่วมเปิดด่านถาวรกับฝ่ายนายกรัฐมนตรีไทย
นอกจากนั้น ในพื้นที่ยังมีธุรกิจประมง ซึ่งเราส่งออกผ่านไปยังจังหวัดระนอง ไปยังจังหวัดสมุทรสาคร มีการซื้อเหล็ก และสินค้าอุปโภคบริโภคทางจังหวัดระนอง หากเปิดด่านถาวรที่สิงขร ได้ก็จะมีการย้ายฐานมาทางนี้ซึ่งจะเป็นผลดี
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีพืชเกษตร เช่น ยางพารา และปาลม์น้ำมัน ซึ่งมีการปลูกไปแล้วกว่า 6 แสนกว่าเอเคอร์ จึงอยากฝากไปถึงนักธุรกิจของฝ่ายไทย อยากให้เดินทางไปดูงานด้านธุรกิจของจังหวัดมะริดกัน ซึ่งในอนาคตทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดมะริด จะต้องพัฒนาไปด้วยกันเพื่อความสัมพันธ์ที่ดี และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ
“ส่วนการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง การลงนามนั้นเป็นความรับผิดชอบทางภาคตะนาวศรี ซึ่งจะมีการลงนามที่เมืองเนปิดอ ระหว่างจังหวัดระนอง กับจังหวัดเกาะสอง และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กับจังหวัดมะริด ซึ่งจะถือเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการลงนามที่จะถึงนี้”
ด้านนายอูลาตั้น (U Hla Than) ประธานหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด กล่าวว่า จังหวัดมะริด นั้นด้านการท่องเที่ยวเรามีเกาะอยู่กว่า 800 เกาะ ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติ เป็นแหล่งดำน้ำที่สำคัญเช่นกัน ในอนาคตการท่องเที่ยวจะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะในขณะนี้มีทั้งนักธุรกิจจากประเทศเพื่อนบ้าน และนักธุรกิจจากในประเทศไทย ได้เริ่มเดินทางมาดูลู่ทางการค้า การลงทุน ทั้งการสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราเพื่อส่งออก
“โดยเฉพาะถนนตั้งแต่ตะนาวศรี-บ้านมูด่อง นั้น ทางภาคเอกชนของจังหวัดมะริด ได้จับมือกับทางฝั่งไทยเร่งพัฒนาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งรถยนต์โฟร์วีลสามารถเดินทางจากจังหวัดมะริด-ด่านสิงขร ฝั่งไทยในราวประมาณ 4 ชั่วโมง ในขณะนี้เป็นถนนลูกลังมีความกว้างประมาณ 8 เมตร และในอนาคตก็จะมีการราดยางต่อไป ซึ่งหากด่านฝั่งไทยเปิดเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการค้า การลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ”
