ประจวบคีรีขันธ์ - กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือแจ้งประจวบคีรีขันธ์ เรื่องร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างประจวบคีรีขันธ์ ราชอาณาจักรไทย-เมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสภาพพม่า ด้านผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ขานรับเชิญนายกรัฐมนตรี รัฐบาลแห่งภาคตะนาวศรี พร้อมคณะรัฐมนตรี และนักธุรกิจของเมืองมะริด ร่วมประชุมหารือถึงการเตรียมความพร้อมการเปิดด่านสิงขร และแนวทางการสถาปนาความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (24 ก.ย.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดระนอง ราชอาณาจักรไทย-เกาะสอง และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราชอาณาจักรไทย-เมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสภาพพม่า ซึ่งได้รับความเห็นชอบ และสอดคล้องต่อนโยบายต่างประเทศของไทย ที่มุ่งสนับสนุนความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งในระดับท้องถิ่น และการสร้างความเข้มแข็งให้พื้นที่ชายแดน และยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย และพม่ากระชับความร่วมมือและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือน ซึ่งยังจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเมืองคู่ภาคีในภาพรวม ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีข้อขัดข้องต่อสารัตถะของร่างบันทึกความเข้าใจ
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราชอาณาจักรไทย กับ จังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “คู่ภาคี” และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามความปรารถนาร่วมกันที่จะเสริมสร้างความเข้าใจของทั้ง 2 เมือง
โดย 1.คู่ภาคีจะร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อส่งเสริมความมั่งคั่ง และการพัฒนาร่วมกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียม และผลประโยชน์ร่วมกันภายในขอบเขตหน้าที่ของตน และเท่าที่กฎหมายระเบียบข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับในประเทศของคู่ภาคีจะอนุญาต
2.คู่ภาคีจะร่วมมือซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องต่อนโยบายของรัฐบาล และพันธกรณีระหว่างประเทศของคู่ภาคี
3.คู่ภาคีจะส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของตนติดต่อกันโดยตรง เพื่อร่วมมือกันตามบันทึกความเข้าใจนี้ คู่ภาคีจะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่คู่ภาคี
4.คู่ภาคีจะหารือซึ่งกันและกันเกี่ยวกับรูปแบบและแผนความร่วมมือในการอนุมัติตามบันทึกความเข้าใจนี้ โดยจัดให้มีการประชุมเพื่อติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานร่วมกันเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีความจำเป็นเพื่อให้แผนงานดังกล่าวมีความก้าวหน้า เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่ายอย่างจริงจัง
5.บันทึกความเข้าใจนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันลงนาม และจะมีผลบังคับใช้อยู่จนกระทั่งภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร 6 เดือนล่วงหน้าให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบถึงเจตนาที่จะบอกเลิกบันทึกความเข้าใจนี้
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ทางประจวบคีรีขันธ์ เมืองมะริด ได้มีโอกาสสถาปนาความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้อง โดยทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ต้องรอทางกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แจ้งว่าจะมีการลงนามฯ ที่ไหน เมื่อไหร่
นอกจากนั้น วันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เชิญ นายอู เมี๊ยะ โก๊ะ (MR.U Myat Ko) นายกรัฐมนตรี รัฐบาลแห่งภาคตะนาวศรี พร้อมคณะรัฐมนตรี และนักธุรกิจของเมืองมะริด มาร่วมประชุมการเตรียมความพร้อมจุดผ่านแดนถาวรมูด่อง-ด่านสิงขร ทั้งเรื่องกิจกรรมวันเปิดด่าน ระยะเวลาจัดงาน สถานที่จัดงาน และเรื่องของการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องว่า จะดำเนินการในด้านใดบ้าง
ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน การแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม ด้านการศึกษา ด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ และจะมีการพบปะกันระหว่างนักธุรกิจเมืองมะริด กับภาคเอกชนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซี่งขณะนี้ขั้นตอนการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสิงขรเพื่อยกระดับเป็นด่านถาวรนั้นอยู่ระหว่างคณะกรรมการร่วมเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะต้องลงมาตรวจสอบครั้งสุดท้าย หากไม่มีปัญหาอะไร ทางฝ่ายไทยก็จะนำเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการประกาศยกระดับจากจุดผ่อนปรนทางการค้าเป็นด่านถาวรต่อไป