มหาสารคาม - เจออีก! ชีวิตแสนรันทดสองพี่น้องชาวมหาสารคาม พ่อเลิกกับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ล่าสุด แม่ถูกรถชนเสียชีวิต คู่กรณีเป็นถึงผู้รับเหมาใจแคบจ่ายชดเชยให้แค่ 2 หมื่น พร้อมท้าหากอยากได้เงินเพิ่มเชิญฟ้องศาลเอาเอง ต้องอาศัยอยู่กินกับน้าซึ่งหาเช้ากินค่ำ พี่สาววัย 15 ปี วอนผู้ใจบุญสนับสนุนทุนการศึกษา อยากเรียนต่อหางานทำเลี้ยงตัวเอง และน้อง
ที่จังหวัดมาหาสารคาม มีการเผยแพร่ข้อมูลแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลาย กรณีพบสองพี่น้องที่ต้องอยู่กันตามลำพัง หลังจากที่มารดาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ส่วนพ่อได้เลิกกับแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ทั้ง 2 พี่น้องต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ และประสบกับปัญหาเรื่องทุนการศึกษา และชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างแร้นแค้น เพราะญาติเองก็มีฐานะยากจน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 13 บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เพื่อพบกับ น.ส.สุนิตา มาลาหอม อายุ 15 ปี และน้องสาว ด.ญ.กัญญาภัค กุณโฮง อายุ 4 ปี เด็กทั้งสองอาศัยอยู่กับน้า ซึ่งเป็นน้องของแม่
นางสังวาล มณีกรรณ์ น้าของเด็กหญิงสองพี่น้อง กล่าวว่า พี่สาวคือ น.ส.ทัศนี กุณโฮง ประสบอุบัติเหตุถูกรถปิกอัพพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.57 ที่ผ่านมา และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาสารคาม พี่สาวได้บริจาคดวงตาให้แก่สภากาชาดไทยทันทีในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยคู่กรณีที่ขับรถชนพี่สาว ได้เจรจาว่าจะมอบเงินค่าทำศพ และช่วยเหลือเป็นเงิน จำนวน 20,000 บาท
ทั้งนี้ ทางผู้เสียหายจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้อีก พวกตนจึงไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ เนื่องจากเห็นว่าเงิน จำนวน 20,000 บาท ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงลูกสาวของผู้ตายที่อยู่ในวัยกำลังเรียน ซึ่งคู่กรณีเป็นผู้รับเหมารายหนึ่งใน อ.วาปีปทุม ยืนยันจ่ายเงินให้แค่ 20,000 บาท และบอกว่าหากอยากได้มากกว่านี้ก็ให้ไปฟ้องเอาที่ศาล
นางสังวาล กล่าวต่อว่า คู่กรณีควรจะมีส่วนรับผิดชอบมากกว่านี้ ล่าสุด ญาติได้ขอให้ทางตำรวจ เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครอบครัวของตนเองมีฐานะยากจน ผู้ตายทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนญาติพี่น้องก็มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ
ทั้งนี้ น.ส.สุนิตา หรือน้องเป้ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ที่โรงเรียนบ้านหนองอุ่ม ต.นาสีนวน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ในช่วงเช้าของทุกวันคุณครูจะขับรถยนต์ส่วนตัวมารับ เนื่องจากเป็นทางผ่าน เพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนพร้อมกับครู
ส่วนน้องสาวคือ น้องต้นกล้า เรียนอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลขามเรียง ซึ่ง น.ส.สุนิตา เป็นเด็กเรียนดี เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.94 เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันทักษะวิชาการต่างๆ และนำรางวัล และความภาคภูมิใจกลับมาให้กับโรงเรียนในทุกครั้ง
หลังจากมารดาเสียชีวิต ช่วงแรกน้องเป้ ก็มีอาการซึมเศร้า ทางญาติจึงได้รับน้องเป้ และน้องต้นกล้า มาอยู่ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปอาการซึมเศร้าก็ดีขึ้นตามลำดับ ทางญาติได้แต่ปลอบใจ และบอกว่าต้องทนรับสภาพให้ได้ และให้หลานตั้งใจเรียน ซึ่งน้องเป้เป็นเด็กดี มีจิตใจเข้มแข็ง
น.ส.สุนิตา มาลาหอม หรือน้องเป้ กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุที่แม่ประสบอุบัติเหตุก็ได้ออกไปดูที่เกิดเหตุ และไปดูแม่ที่โรงพยาบาล รู้สึกตกใจ และเสียใจเมื่อแม่ไม่อยู่ ตนก็ต้องเลี้ยงน้อง ตั้งแต่เช้าตื่นมาก็จะหุงข้าว กวาดบ้านก่อนที่จะไปปลุกน้องอาบน้ำแต่งตัวให้ตัว ปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ป้อนข้าวให้น้อง และถึงจะไปโรงเรียน กลับมาบ้านก็จะล้างจาน เก็บกวาดบ้าน ทำการบ้านของตัวเอง และสอนน้องทำการบ้าน
ซึ่งตอนนี้ที่ยังขาดคือ เรื่องของทุนการศึกษา สภาพความเป็นอยู่ตอนนี้อยู่กับน้า ในเรื่องอาหารการกินไม่มีปัญหา ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะยังพอมี แต่ต่อไปในอนาคตเมื่อตนเองโตขึ้น และน้องโตขึ้น ตนเองก็อยากที่จะเรียนให้สูงเพราะจะต้องทำงานเลี้ยงน้องอีกคน อนาคตจะก็ต้องใช้เงินเยอะกว่านี้ หากไม่มีเงินก็กลัวว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือ อยากจะเรียนให้สูงที่สุดเพื่อที่จะได้มีงานทำที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเอง และดูแลน้อง และตอบแทนพระคุณให้แก่ญาติๆ และผู้มีพระคุณ
หากผู้ใจบุญต้องการที่จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ น้องเป้ ก็สามารถช่วยเหลือเป็นสิ่งของ หรือปัจจัย สามารถโอนเงินมาได้ที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบี๊กซี มหาสารคาม ชื่อบัญชี น.ส.สุนิตา มาลาหอม หมายเลขบัญชี 405-282749-4
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่น้องเป้ เดือนละ 1,000 บาท ไปจนกว่าจะเรียนจบชั้น ม. 6 และจากนั้นจะสนับสนุนให้เข้าศึกษาต่อในคณะบัญชี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม