ศรีสะเกษ - ผู้รวบรวม และบริจาคที่ดินตั้งสำนักสงฆ์อดีตหลวงปู่เณรคำ วอนหน่วยงานรัฐเร่งอนุญาตตั้งวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย เหตุเสนอเรื่องไปนานแล้วแต่เงียบหาย เผยวัดป่าขันติธรรม ล่าสุดรกร้าง เงียบเหงา และมีพระที่ยังศรัทธาในตัว “ไอ้คำ” จำวัดอยู่ 4 รูป
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลางทุ่งนาบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ คุณยายลอน มนัส อายุ 69 ปี ผู้รวบรวมและบริจาคที่ดินให้ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้จัดตั้งวัดป่าขันติธรรม ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุ และก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกมานานร่วม 10 ปีแล้ว และขณะนี้นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ยังคงหลบหนีคดี ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่แห่งใด อีกทั้งคณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุติ และคณะสงฆ์ จ.อุบลราชธานี ฝ่ายธรรมยุติ ได้มีมติให้หลวงปู่เณรคำ พ้นจากความเป็นพระสงฆ์แล้ว
โดยขณะนี้สำนักสงฆ์ขันติธรรมอยู่ในสภาพที่เงียบเหงา รกร้างว่างเปล่า มีชาวบ้านผ่านเข้ามากราบไหว้พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวนน้อย และมีพระจำวัดอยู่ประมาณ 4 รูป ซึ่งเป็นพระที่ยังศรัทธาในตัวของ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ
คุณยายลอน กล่าวว่า หลังจากที่ปัญหาวุ่นวายในเรื่องของอดีตหลวงปู่เณรคำ และสำนักสงฆ์ขันติธรรม สิ้นสุดลงแล้ว ตนได้ยื่นเรื่องขออนุญาตจัดตั้งวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา วัดป่าขันติธรรม ไม่ได้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากอดีตหลวงปู่เณรคำ ไม่ยอมตั้งวัดให้ถูกต้อง ทั้งที่ตนได้บริจาคที่ดินในการตั้งวัดไปเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งได้ร่วมกับญาติพี่น้อง และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งศาลาการเปรียญ และกุฏิพระต่างๆ ครบถ้วนหมดแล้ว พร้อมที่จะตั้งวัดได้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนได้เสนอเรื่องขออนุญาตตั้งวัดต่อสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ไปนานร่วม 1 ปีเศษแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดตั้งวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งไม่ทราบว่าติดขัดอยู่ขั้นตอนใดอีกทั้งเรื่องการขอตั้งวัดป่าขันติธรรมได้เงียบหายไป
“จึงขอวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เร่งอนุญาตให้มีการจัดตั้งวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยด่วนด้วย ทั้งนี้ เพื่อจะได้ใช้เป็นสถานที่ในการประกอบกิจของสงฆ์ และเป็นที่ทำบุญตามประเพณีทางพระพุทธศาสนาสืบต่อไป” คุณยายลอน กล่าว