ศรีสะเกษ - จัดตั้งสำนักสงฆ์ขันติธรรมของ “อดีตเณรคำ” จอมฉาว เป็น “วัดสามัคคิยาราม” พร้อมเร่งสรรหาเจ้าอาวาสเพื่อปกครองและพัฒนาวัดต่อไป ขณะบรรยากาศภายในวัดซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกเงียบเหงา เผยพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดทั้งหมดเป็นพระลูกศิษย์ของอดีตเณรคำ
วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางลอน มนัส อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 ม.1 บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยแกนนำชาวบ้านยาง ได้มาพบกับ จ.อ.สถาพร พรหมบุตร นักวิชาการศาสนา ชำนาญการ เพื่อขอรับใบประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ตามที่นางลอนได้ขอตั้งสำนักสงฆ์ขันติธรรม ซึ่งเดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่ นายวิรพล สุขผล อดีตพระภิกษุชื่อพระวิรพล ฉัตติโก โดยเรียกตนเองว่า หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และเป็นที่รู้จักในชื่อหลวงปู่เณรคำ อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังและมีชื่อเสียงจากความสามารถในการสั่งสอน แต่ภายหลังถูกถอดจากสมณเพศเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ
และเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีและคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้ขับพระวิรพลออกจากสมณเพศเนื่องจากผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง ได้แก่ เสพเมถุน ต้องอาบัติปาราชิก ซึ่ง จ.อ.สถาพรได้มอบใบตราตั้งวัดให้แก่ นางลอน โดยได้มีการเปลี่ยนชื่อสำนักสงฆ์ขันติธรรม หรือวัดป่าขันติธรรม เป็น วัดสามัคคิยาราม ประกาศลงวันที่ 23 ธ.ค. 2557 ลงนามโดย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
จ.อ.สถาพร พรหมบุตร นักวิชาการศาสนาชำนาญการ กล่าวว่า ตามที่ นางลอน มนัส ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดบ้านยาง ม.1 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นั้น บัดนี้ นางลอนได้สร้างเสนาสนะขึ้นสมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุได้แล้ว ดังนั้น อาศัยความตามข้อ 4 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2507) ออกตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดสามัคคิยาราม” สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
โดยขั้นตอนต่อไปนั้น ทางคณะสงฆ์ธรรมยุตศรีสะเกษ โดยเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ จะต้องดำเนินการสรรหาพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสเพื่อปกครองและพัฒนาวัดสามัคคิยารามต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันบรรยากาศภายในวัดสามัคคิยาราม หรือ อดีตสำนักสงฆ์ขันติธรรม ที่เพิ่งได้รับการตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายค่อนข้างเงียบเหงามาก ภายในกุฏิสงฆ์ยังคงมีรูปภาพของอดีตหลวงปู่เณรคำตั้งอยู่ ด้านนอกมีพระสงฆ์กำลังกวาดทำความสะอาดวัด ส่วนด้านหน้าวัดซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงสภาพเดิมไม่มีการพัฒนาต่อเติมแต่อย่างใด
พระสงฆ์ภายในวัดบอกว่า หลังจากที่อดีตหลวงปู่เณรคำได้ถูกขับพ้นจากความเป็นพระสงฆ์แล้วก็ไม่มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาวัดคึกคักเหมือนที่ผ่านมา ส่วนพระสงฆ์ที่ยังอยู่ในวัดก็ยังคงปฏิบัติศาสนกิจกันตามปกติ ซึ่งพระสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระลูกศิษย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก