ศรีสะเกษ - ชาวศรีสะเกษตะเพิดนิมนต์ “เณรคำ” พ้นจังหวัด เผยข่าวฉาวสร้างความเสื่อมเสียให้แก่จังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างมาก และทำคนไทยทั้งชาติเอือมระอา ระบุชาวบ้านกำลังรวมตัวกันเพื่อนิมนต์ให้ไปอยู่ที่อื่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ก.ค.) นายวุฒิพงษ์ คำเพราะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1482/7 ถ.วิจิตรนคร ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนทุกแขนงได้เผยแพร่ข่าวพระวิรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมกับสมณเพศมาอย่างต่อเนื่องว่า ตนในฐานะประชาชนชาวศรีสะเกษได้รับทราบเรื่องนี้จากสื่อสารมวลชนแล้ว เห็นว่าข่าวของเณรคำสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ จ.ศรีสะเกษเป็นอย่างมาก จากเรื่องข่าวขนรถหรูมาจดทะเบียน รวมทั้งกรณีปราสาทพระวิหารก็ทำให้ จ.ศรีสะเกษเสียหายมากแล้ว ยังมามีข่าวเรื่องเณรคำอีก ส่วนตนไม่เคยศรัทธาเณรคำและไม่รู้ว่าวัดเณรคำอยู่ที่ใด ซึ่งในฐานะชาวศรีสะเกษรู้สึกเจ็บปวดที่เณรคำทำให้ชื่อเสียงจังหวัดฯ เสียหาย ทำให้ชาวศรีสะเกษและคนไทยทั้งชาติเอือมระอา
หากเณรคำคิดว่าตัวเองเป็นทองจริงต้องทนความร้อนได้ ต้องกล้าที่จะออกมาสู้ความจริง หากเป็นทองจริงก็อยู่ได้ แต่คิดว่าเณรคำน่าจะเป็นทองเก๊มากกว่า ซึ่งในความรู้สึกของตนและชาวศรีสะเกษเห็นว่าเณรคำไม่ใช่พระที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวศรีสะเกษ เพราะมีแต่คนจากภาคอื่นที่เข้ามากราบไหว้แต่คนในพื้นที่ไม่มีใครศรัทธาและไม่มีใครเข้าไปร่วมกิจกรรมที่เณรคำจัดขึ้น จึงเห็นว่าหากคนจากที่อื่นเขาศรัทธาเณรคำมากก็ควรให้คนจากจังหวัดอื่นมานิมนต์เณรคำไปอยู่ที่จังหวัดนั้นด้วยเลย
นายวุฒิพงษ์กล่าวต่อว่า ชาวศรีสะเกษขอนิมนต์เณรคำไปอยู่จังหวัดอื่นที่ท่านชอบ และขณะนี้ชาว จ.ศรีสะเกษกำลังรวมตัวกันเพื่อจะนิมนต์เณรคำไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากทนไม่ไหวกับการที่เณรคำทำให้ชื่อเสียงของ จ.ศรีสะเกษเสียหายอีกต่อไปแล้ว
อีกทั้งที่ผ่านมาตนทราบข่าวว่า แม้เณรคำจะอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ แต่ไม่เคยอยู่วัด จะมาวัดป่าขันติธรรมเฉพาะในช่วงที่มีการจัดงานหาเงินโดยอ้างกับชาวบ้านว่าหาเงินสร้างวิหารครอบองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น เมื่อจัดงานเสร็จได้เงินแล้วก็ออกไปจากวัดและไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างองค์พระแก้วมรกตจำลองดังกล่าวแต่อย่างใด
“เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของ จ.ศรีสะเกษไม่ให้เสียหายบอบช้ำไปมากกว่านี้ จึงขอนิมนต์เณรคำให้ไปอยู่ที่วัดอื่นๆ เป็นการดีที่สุด เพราะเชื่อว่าเณรคำก็ไม่อยากที่จะอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม นอกจากใช้เป็นสถานที่ในการจัดงานหาเงินเท่านั้น” นายวุฒิพงษ์กล่าว