กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจันทบุรี ประชุมหาทางแก้ราคายางตกต่ำ

จันทบุรี-กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี จัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 10 อำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ พร้อมเสนอ 5 ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหา

วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานกองทุนการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี นายประกอบ มังกร ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี ได้จัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 10 อำเภอ โดยมี นายธีระ วงษ์เจริญ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการทั้ง 10 อำเภอ เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ

สำหรับการจัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 10 อำเภอ ในครั้งนี้ มีสาระสำคัญสืบเนื่องจากปัจจุบัน เกษตรกรได้ขายยางต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิต ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ สร้างความเดือดร้อนให้แก่แก่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น ในส่วนของจังหวัดจันทบุรี จึงได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายการทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 10 อำเภอขึ้น เพื่อเสนอ 5 ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา

ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ที่ทางกลุ่มเครือข่ายการทำสวนยางทั้ง 10 อำเภอ ประกอบด้วย 1.ให้ทางรัฐบาลเข้ามาส่งเสริมการรวมกลุ่มสหกรณ์อย่างจริงจัง กิจกรรมที่กลุ่มสหกรณ์ทำได้ไม่ควรแย่งมาทำ เช่น จัดหาปุ๋ยให้สมาชิกทั้งจัดตั้งให้ผู้ยื่นขอทุนสงเคราะห์ ควรส่งเสริมและกำกับดูแลเท่านั้น มิเช่นนั้น กลุ่มสหกรณ์จะไม่สามารถทำธุรกิจเป็น

2.ให้รัฐบาลต้องจัดตั้งตลาดกลางยางพาราให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะภาคตะวันออก ยังไม่มีตลาดกลางยางพารา ทั้งที่มียางมา 100 ปีแล้ว เทียบกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแล้วถึง 2 แห่ง คือ จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดหนองคาย

3.ให้กลุ่มสหกรณ์กู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำอุตสาหกรรมขั้นปลาย คือ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

4.ให้จัดการขออนุญาตทางอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นจุดเดียว หรือวันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งปัจจุบันต้องขอถึง 9 หน่วยงาน และใช้เวลาเป็นปี โดยผู้ขอ ผู้อนุญาตต้องรับผิดชอบขั้นสูงสุดหากผิดระเบียบ

และ 5.พัฒนาบุคลากรให้รองรับการบริหารทางธุรกิจได้

นายประกอบ มังกร ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ปัญหาราคายางพารานั้นคาดว่าในปีหน้าราคายางพาราน่าจะกลับมาดี หลัง คสช.มีแผน และโรดแมประยะสั้น ระยะยาว และระยะปานกลาง ใน 10 ปีข้างหน้า ทีได้มีการอนุมัติเงินกว่า 30,000- 40,000 ล้านบาท ก็จะช่วยสวนยางได้

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าของสวนต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยการใช้เศรษฐกิจพอเพียงกรีดพออยู่ได้ไปก่อน ซึ่งตรงนี้ตนเองคิดภายใน 6 เดือนข้างหน้า สถานการณ์คงจะดีขึ้น ส่วนการขออนุญาตทางอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าปลายน้ำคงจะต้องเริ่มทำแล้ว