ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจ ทหาร ป่าไม้ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบไม้พะยูง และไม้ชิงชันจำนวนมากกลางเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี สั่งอายัดไม้พะยูง และไม้ชิงชันทั้งหมดกว่า 100 ท่อน โดยคนดูแลไม้ออกมาแสดงตัวอ้างว่าได้ครอบครองไม้โดยถูกต้อง มีใบซื้อขาย และมีเอกสารต้นตอไม้ และเคยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัด หรือสืบภาค 2 มาตรวจแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ก็ไม่ถูกจับกุมแต่อย่างใด
วันนี้ (21 ส.ค.) พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม พ.อ.อำนาจ ดอนงาม รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 14 จังหวัดลบุรี นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชบ.1 (บ่อทอง) และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบไม้จำนวนมากที่บริเวณลานจอดรถบางแสน ไนท์พลาซ่า อ.เมือง จ.ชลบุรี
โดยสถานที่พบไม้พะยูง เป็นที่โล่งทำเป็นลานจอดรถของตลาดบางแสนไนท์พลาซ่า พบตู้คอนเทนเนอร์ตั้งอยู่ ภายในบรรจุรากไม้พะยูงบรรจุอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ ห่างไปอีกประมาณ 100 เมตร ในบริเวณป่าหญ้ารก ยังตรวจสอบพบไม้พะยูง และไม้ชิงชันที่แปรรูปแล้วอีกจำนวนหนึ่ง จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยรอบบริเวณพบโกดังทึบต้องสงสัย ขนาด 8 คูณ 8 เมตร พอเปิดประตูออกก็พบไม้พะยูงแปรรูป และรากไม้พะยูงจำนวนมากบรรจุแน่นอยู่ในโกดังเต็มความจุ จึงให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบ และทำการอายัดไว้ตรวจสอบจำนวนก่อน
ในขณะเดียวกัน มีนายชนะ เตียวคับ ได้แสดงตัวว่าเป็นคนดูแลไม้พะยูง และไม้ชิงชันที่พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกไปสอบถาม โดยนายชนะ เตียวคับ อ้างว่า ไม้ชุดนี้ตนเป็นคนดูแลทั้งหมด ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบจังหวัด หรือสืบภาค 2 ไม่แน่ใจเข้ามาตรวจสอบถึง 4 ครั้งแล้วก็ไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ซึ่งตนก็มีเอกสาร แหล่งที่มาการซื้อขาย และการยืนยันตอไม้มาแสดง
รวมทั้งเอกสารในการครอบครองไม้ ซึ่งมีทั้งไม้พะยูง รากไม้พะยูง และไม้ชิงชันมาแสดงทุกครั้ง โดยตนได้ทยอยซื้อมาจากภาคอีสาน และซื้อมาหลายเที่ยว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,500,000 บาท ซึ่งจะนำมาขายให้แก่พวกที่นำไม้ไปทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ในช่วงนี้ไม่มีคนซื้อจึงต้องเก็บไว้ รวมทั้ง คสช.ยังกวดขันเรื่องนี้ด้วยยิ่งไม่มีคนซื้อ พอดีกับเจ้าของที่ที่เคยเช่าเป็นที่เก็บไม้เกิดต้องการนำพื้นที่ไปปลูกบ้าน ตนเลยต้องนำมากองไว้ในที่ดินคนอื่นก่อน เพราะไม่มีเงินขนย้าย จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบพบไม้ จำนวน 3 จุด ที่บริเวณตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณโกดัง และบริเวณป่า โดยรวมทั้งหมดกว่า 100 ท่อน ในเบื้องต้นพบเป็นไม้พะยูง และไม้ชิงชัน จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่อายัดไม้ทั้งหมดไว้ทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ที่สำคัญเป็นคำสั่งของ คสช.ที่เน้นเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
สำหรับไม้จำนวนดังกล่าวยังไม่ทราบว่าเป็นไม้ในประเทศ หรือนอกประเทศ ซึ่งหากเป็นไม้ในประเทศถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง และการนำไม้จำนวนมากมาซุกซ่อน หรืออำพรางเพื่อรอเวลาขายต่อไป
พ.ต.อ.กรไชย กล่าวต่อไปว่า ที่มีการบอกว่าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้วนั้น ไม่ทราบเป็นการตรวจสอบแบบไหน ถูกต้องหรือไม่อย่างไร และปริมาณไม้มีจำนวนเท่าเดิมหรือมีการนำเข้ามาเพิ่มหรือไม่ โดยการเข้ามาตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ หากเจ้าของไม้มีเอกสารหลักฐานต่างๆ ก็นำมาแสดงเพื่อทราบแหล่งที่มาต่อไป แต่ในเบื้องต้น จะดำเนินคดีในข้อหาการครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป