จนท.ป่าไม้ เร่งตรวจนับไม้พะยูงพร้อมเตรียมออกหมายเรียก “เจ๊ไน้” เจ้าของไม้หวงห้าม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ป่าไม้เร่งตรวจนับไม้พะยูงเพื่อนำไปเก็บรักษา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวเจ้าของไม้ พร้อมบุกเข้าตรวจค้นบ้าน “เจ๊ไน้” เจ้าของไม้พะยูง และเจ้าของที่ดินแล้วแต่ไม่พบตัว พร้อมเตรียมออกหมายเรียกต่อไป

จากกรณีที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าตรวจยึดไม้พะยูงที่นำมาซุกซ่อนด้วยการใช้ดินฝังกลบ และซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณลานโล่งข้างหมู่บ้านสิริภัสสร วิลเลจ หมู่ที่ 6 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยเบื้องต้นพบว่า มีไม้พะยูงกว่า 500 ท่อน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทราบว่าเป็นของนักธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้รายใหญ่ในจังหวัดชลบุรี

ความคืบหน้าในวันนี้ (26 เม.ย.) นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชบ.1 (บ่อทอง) จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้การตรวจนับไม้พะยูงที่ใช้ดินฝังกลบนั้นพบว่ามีไม้ทั้งสิ้น จำนวน 635 ท่อน แยกเป็นไม้พะยูง จำนวน 479 ท่อน และไม้ประดู่ จำนวน 156 ท่อน

ส่วนไม้ที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้นั้น เจ้าหน้าที่เร่งขนออกมาตู้เพื่อมานำจำนวนหลายละเอียด คาดว่าภายในวันนี้จะสามารถนำออกมานับได้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าภายในตู้จะมีมากกว่า 500 ท่อนอย่างแน่นอน และขณะนี้ในบางส่วนได้ขนย้ายไปไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชบ.1 (บ่อทอง) จังหวัดชลบุรีแล้ว จำนวน 259 ท่อน

นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากอุปกรณ์เครื่องจักรมีไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้เครื่องจักรจากเอกชน โดยหากนำไปตรวจสอบที่หน่วยฯ ก็จะมีอุปกรณ์ และเครื่องมือพร้อมก็จะเร็วกว่านี้ แต่เพราะการตรวจสอบจะต้องร่วมกันหลายฝ่ายจึงต้องทำการตรวจวัดบริเวณพื้นที่ที่จับกุมก่อนที่จะทำการเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชบ.1 (บ่อทอง) ต่อไป

ขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้ที่นำไม้ดังกล่าวมาซุกซ่อนแล้ว คือนางณัฐพร จากน่าน (เจ๊ไน้) อายุ 42 ปี ร้านไม้เมือง เลขที่ 151/21 ริมอ่างเก็บน้ำบางพระ หมู่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา

โดยมีการขอหมายศาลเข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านหลังดังกล่าวแต่ไม่พบเจ้าตัว และหลักฐานแต่อย่างใด นอกจากนั้น ยังเข้าตรวจสอบบ้านพักของเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวแต่ก็ไม่พบเจ้าตัว และหลักฐานอะไรเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนป่าไม้มีเพียงการตรวจนับ และนำของกลางไปเก็บรักษาไว้เท่านั้น

ด้านแหล่งข่าวจากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจศรีราชา กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังติดตามเจ้าของไม้พะยูงดังกล่าว แต่ยังไม่พบตัว และหลังจากนี้อาจจะต้องออกหมายเรียกเพื่อให้เจ้าของไม้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบในการครอบครองไม้ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากไม่ถูกต้อง หรือไม่มีหลักฐานอะไรก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป