อุบลราชธานี - อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งด่วนให้ย้ายที่ตั้งด่านป่าไม้ ใน อ.พิบูลมังสาหาร ไปเปิดทำการประจำอยู่ที่ด่านพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรเปิดตรวจรถลำเลียงไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำไปพักไว้ในพื้นที่มั่นคงของด่านศุลกากร
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอุบลราชธานี นำหมายศาลจังหวัดเข้าตรวจสอบโกดังเก็บไม้ของบริษัทจินดา อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 129 บ้านโปร่งดินดำ หมู่ 2 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
จากการตรวจสอบพบไม้พะยูง ปะปนกับไม้ชิงชันจำนวนทั้งสิ้น 116 ท่อน โดยแต่ละท่อนมีขนาดหน้ากว้าง 30-50 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร มูลค่าในต่างประเทศประมาณ 40 ล้านบาทนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (17 พ.ค.) นายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการร่วมในการเปิดตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกไม้ จำนวน 14 ตู้ ของบริษัทจินดา อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ที่จะนำไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ไม่พบไม้พะยูงปะปนอยู่กับไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ที่จะส่งออก ก็ถือว่ากระบวนการตรวจสอบของทางป่าไม้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในการตรวจหาไม้ผิดกฎหมาย
ขั้นตอนต่อไปก็คือ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะทำการตรวจนับจำนวนไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ที่นำเข้ามาและเตรียมส่งออกไปยังประเทศจีนในตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 14 ใบ มีปริมาณไม้ตรงกับที่ผู้ประกอบการได้สำแดงไว้ต่อทางศุลการกรหรือไม่ หากถูกต้องป่าไม้ก็จะออกหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการนำส่งให้แก่ลูกค้าปลายทางได้
“การตรวจซ้ำ เพราะไม้ที่จะส่งออกเที่ยวนี้ ด่านศุลกากรเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย จึงต้องทำการตรวจนับกันอีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง”
และจากการตรวจพบไม้พะยูงขนาดใหญ่ปะปนเข้ามากับไม้ประเภทอื่นจำนวนหนึ่งด้วย ทำให้คาดว่าเป็นไม้พะยูงจากประเทศเพื่อนบ้าน
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งด่วนให้ย้ายที่ตั้งด่านป่าไม้ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอพิบูลมังสาหาร ไปเปิดทำการประจำอยู่ที่ด่านพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร เปิดตรวจรถลำเลียงไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำไปพักไว้ในพื้นที่มั่นคงของด่านศุลกากร
เพราะไม้พะยูงมีลักษณะคล้ายไม้ชิงชันอย่างมาก จึงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้เป็นผู้ตรวจสอบไม้ในขณะนำเข้ามาเลย จะได้ไม่เกิดเหตุมีไม้พะยูงปะปนมากับไม้ชิงชันอีก
สำหรับปริมาตรไม้พะยูงที่ตรวจพบทั้งหมดครั้งนี้ 116 ท่อน คิดเป็น 7.87 ลูกบาศก์เมตร มีมูลค่าราว 40 ล้านบาทในต่างประเทศ หลังศุลกากรดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการที่สำแดงเท็จตามกฏหมายศุลกากรเสร็จเรียบร้อย ป่าไม้จังหวัดก็จะนำไม้ทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ อบ.ที่ 14 ต่อไป