อุบลราชธานี - จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอุบลราชธานี นำหมายศาลจังหวัดเข้าตรวจสอบโกดังเก็บไม้ของบริษัทจินดา อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 129 บ้านโปร่งดินดำ หมู่ 2 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี จากการตรวจสอบ 2 วันที่ผ่านมา พบไม้พะยูงปะปนกับไม้ชิงชัน จำนวน 109 ท่อน โดยแต่ละท่อนมีขนาดหน้ากว้าง 30-50 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 พ.ค.) นายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่บนรถเตรียมขนลงเรือไปประเทศจีนทั้ง 14 คัน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ สภ.พิบูลมังสาหาร สกัดจับไว้ได้ ไม่พบมีไม้พะยูงปะปนอยู่
แต่ตรวจพบไม้พะยูงเพิ่มเติมจากตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่ในบริษัทจินดา อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 1 ตู้ อีก 7 ท่อน รวมพบไม้พะยูงทั้งสิ้น 116 ท่อน คิดเป็น 7.87 ลูกบาศก์เมตร
โดยมีมูลค่าในประเทศประมาณ 8 ล้านบาท และต่างประเทศประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งไม้พะยูงที่ตรวจพบทั้งหมดเจ้าหน้าที่ศุลกากร จะส่งมอบให้แก่ทางป่าไม้นำไปเก็บรักษา
สำหรับแนวทางการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำไม้พะยูงเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือนำไม้พะยูงในประเทศมาปะปนกับไม้ประเภทอื่นแล้วส่งออกไปต่างประเทศ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 จ.อุบลราชธานี จะทำหนังสือแจ้งให้กรมป่าไม้ สั่งการให้ด่านตรวจป่าไม้พิบูลมังสาหาร ซึ่งขึ้นตรงต่อกรมป่าไม้ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจสอบระหว่างนำไม้เข้า และก่อนส่งออกกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีความชำนาญเรื่องการดูไม้มากกว่า
ส่วนการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ศุลกากรระบุว่า จะทำการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการตามกฎหมายศุลกากรคือ การสำแดงเอกสารเท็จ และอาจยกเลิกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกไม้ของบริษัทแห่งนี้ต่อไป
สำหรับโกดังเก็บไม้ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่มั่นคงของด่านศุลกากรอำเภอพิบูลมังสาหาร เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี บุกจับมาแล้วเมื่อกลางปี 2554 โดยครั้งนั้นพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่หลังโกดังจำนวนหลายร้อยท่อน เพื่อเตรียมปะปนกับไม้ชนิดอื่นส่งออกไปประเทศจีน
ทำให้ผู้ประกอบกิจการถูกดำเนินคดีฐานมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง และได้เปลี่ยนผู้ประกอบธุรกิจรายนี้มาดำเนินการแทน