คสช. ออกคำสั่งให้ ก.กลาโหม ก.มหาดไทย ก.ทรัพย์ยากรฯ กองทัพ ปราบปรามจับกุมผู้บุกรุก ผู้สนับสนุนหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้าม รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (14 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.35 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 64/2557 ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพย์ยากรป่าไม้
เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถลดผลกระทบที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของประเทศโดยรวม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
1. ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก และกองทัพเรือ ตลอดจนหน่วยงานที่มีภารกิจและอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลาย หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่า รวมทั้งสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ ร่วมทั้งสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้มีค่าหรือไม้หวงห้าม การนำเข้าและส่งออกไม้ผิดกฎหมาย ตลอดแนวชายแดน ตลอดจนการปราบปรามเครือข่ายการตัดไม้ทำลายป่าในทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ
2. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ควบคุม ตรวจสอบ กิจการการแปรรูปป่าไม้ การตั้งโรงงานแปรรูปป่าไม้ การค้าไม้แปรรูป ตลอดจนการค้าหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามและสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้หวงห้าม หากพบมีการปล่อยปละละเลย หรือมีเจตนาจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่บัญญัติไว้ ให้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเจ้าของหรือผู้ประกอบการโดยทันที
3. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ติดตามคดีป่าไม้และดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก ทำลาย ให้คืนสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์ดังเดิม โดยประสารกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชน และองค์กรชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าวอย่างจริงจัง
4. เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปล่อยปละละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกรณีดังกล่าวข้างต้น จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดโดยทันที
5. ให้กระทรวงทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามการดำเนินการตามข้อ 1-4 และรายงานผลการปฏิบัติให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป