บุรีรัมย์ -เผาแล้ว 5 ศพ แรงงานบุรีรัมย์เหยื่อตึกคอนโดมิเนียมยูเพลสถล่ม ที่ จ.ปทุมธานี ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัวญาติพี่น้อง ขณะพ่อแม่ และเมีย “เชษฐา” 1 ในเหยื่อเสียชีวิต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือความเป็นอยู่ของครอบครัวในระยะยาว เพราะขาดเสาหลักหารายได้เลี้ยงดู ส่วนเงินที่ได้รับใช้จ่ายจัดงานศพเกือบหมดแล้ว
วันนี้ (16 ส.ค.) ศพแรงงานชาวบุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมอาคารคอนโดมิเนียม 6 ชั้น หรือ “ตึกยูเพลส” ที่กำลังก่อสร้างที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถล่มทับเสียชีวิต ซึ่งเป็นชาว อ.นางรอง และ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 ราย ได้ทำพิธีฌาปนกิจแล้วที่วัดหนองไทร ต.หนองไทร อ.นางรอง และวัดบ้านปลื้ม ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัวญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่มาร่วมงาน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้ติดตามข่าว โดยเฉพาะแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ถึง 5 ราย ประกอบด้วย นายธนากรณ์ ตรีเมฆ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.7 บ.คลองไผ่ ต.หนองไทร อ.นางรอง นายเชษฐา กำพูชาติ อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 73 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายสิทธิโชค แกมมะณี อายุ 18 ปี อยู่เลขที่ 67 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี อายุ 36 ปี อยู่เลขที่10 ม.14 ต.หนองไทร อ.นางรอง และนางเพียบ มงคล อายุ 34 ปีอยู่เลขที่ 6/2 ม.15 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ซึ่งเป็นภรรยาของนายใกล้รุ้ง ทับครบุรี
ขณะที่นายปรารภ กำพูชาติ อายุ 61 ปี พร้อมด้วย นางมารยาท กำพูชาติ อายุ 61 ปี และนางสุทา อรุณศรี อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ และภรรยาของ นายเชษฐา กำพูชาติ หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลเรื่องความเป็นอยู่ในระยะยาว เนื่องจากต้องขาดเสาหลักที่หารายได้เลี้ยงครอบครัว
ส่วนเงินที่ได้รับจากประกันสังคม 30,000 บาท เจ้าของโครงการ 55,000 บาทบริษัทรับเหมา 50,000 บาท และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งอีก 10,000 บาท ขณะนี้นำไปใช้จ่ายจัดงานศพ และใช้จ่ายในครอบครัวเกือบหมดแล้ว
นางมารยาท กำพูชาติ ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียลูกชายเพราะเป็นเสาหลัก และความหวังของครอบครัว เนื่องจากพี่ชายคนโตเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพี่สาวคนกลาง มีอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ด้วย เพราะพ่อกับแม่แก่ชราแล้ว ไม่สามารถทำงานหนักได้ รอความหวังจากลูกชายต้องมาเสียชีวิตอีก ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร แต่หากเลือกได้อยากได้ชีวิตลูกกลับคืนไม่ว่าจะทุกข์ยากลำบากแค่ไหนก็ยอม
วันนี้ (16 ส.ค.) ศพแรงงานชาวบุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมอาคารคอนโดมิเนียม 6 ชั้น หรือ “ตึกยูเพลส” ที่กำลังก่อสร้างที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถล่มทับเสียชีวิต ซึ่งเป็นชาว อ.นางรอง และ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 ราย ได้ทำพิธีฌาปนกิจแล้วที่วัดหนองไทร ต.หนองไทร อ.นางรอง และวัดบ้านปลื้ม ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัวญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่มาร่วมงาน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้ติดตามข่าว โดยเฉพาะแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ถึง 5 ราย ประกอบด้วย นายธนากรณ์ ตรีเมฆ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.7 บ.คลองไผ่ ต.หนองไทร อ.นางรอง นายเชษฐา กำพูชาติ อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 73 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายสิทธิโชค แกมมะณี อายุ 18 ปี อยู่เลขที่ 67 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี อายุ 36 ปี อยู่เลขที่10 ม.14 ต.หนองไทร อ.นางรอง และนางเพียบ มงคล อายุ 34 ปีอยู่เลขที่ 6/2 ม.15 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ซึ่งเป็นภรรยาของนายใกล้รุ้ง ทับครบุรี
ขณะที่นายปรารภ กำพูชาติ อายุ 61 ปี พร้อมด้วย นางมารยาท กำพูชาติ อายุ 61 ปี และนางสุทา อรุณศรี อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ และภรรยาของ นายเชษฐา กำพูชาติ หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลเรื่องความเป็นอยู่ในระยะยาว เนื่องจากต้องขาดเสาหลักที่หารายได้เลี้ยงครอบครัว
ส่วนเงินที่ได้รับจากประกันสังคม 30,000 บาท เจ้าของโครงการ 55,000 บาทบริษัทรับเหมา 50,000 บาท และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งอีก 10,000 บาท ขณะนี้นำไปใช้จ่ายจัดงานศพ และใช้จ่ายในครอบครัวเกือบหมดแล้ว
นางมารยาท กำพูชาติ ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียลูกชายเพราะเป็นเสาหลัก และความหวังของครอบครัว เนื่องจากพี่ชายคนโตเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพี่สาวคนกลาง มีอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ด้วย เพราะพ่อกับแม่แก่ชราแล้ว ไม่สามารถทำงานหนักได้ รอความหวังจากลูกชายต้องมาเสียชีวิตอีก ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร แต่หากเลือกได้อยากได้ชีวิตลูกกลับคืนไม่ว่าจะทุกข์ยากลำบากแค่ไหนก็ยอม