ศูนย์ข่าวศรีราชา -ตำรวจบ่อวิน ไล่ล่า 2 คนร้ายจับเจ้าของร้านขายส่งมัดมือ-เท้า ลักทรัพย์กว่า 7 แสนบาท หลังกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน พร้อมเสนอรางวัลนำจับ
พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช ผกก.สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงความคืบหน้า 2 คนร้ายที่ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ร้านขายส่งสินค้า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจับ นางนันท์จิตรา หมื่นธนัทพงศ์ เจ้าของร้าน พร้อมลูกชายวัย 10 ขวบ มัดมือ และเท้า จากนั้นได้ทำร้ายโดยเตะเข้าที่ปลายคางเจ้าของร้านจนสลบ จากนั้นได้รื้อค้นทรัพย์สิน และของในร้านไป รวมทั้งสิ้นกว่า 7 แสนบาท
ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีเบาะแสของคนร้ายเลย เนื่องจากในช่วงที่เกิดเหตุคนร้ายนำเครื่องบันทึกภาพที่บันทึกข้อมูลของคนร้ายไว้ทั้งหมดนำไปแช่น้ำเพื่อทำลายหลักฐาน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แก้ไขนานกว่า 2 สัปดาห์ จนสามารถกู้ภาพ และเห็นหน้าคนร้ายทั้ง 2 คน ที่ลงมือก่อเหตุได้ชัดเจน
พ.ต.อ.เผ่าภากร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนเพื่อนำภาพคนร้ายไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยหากใครสามารถชี้แบะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ทางเจ้าหน้าที่พร้อมมีเงินรางวัลให้ จำนวน 50,000 บาท หรือสามารถติดต่อได้ที่ พ.ต.ต.โสภณ พรามณี สารวัตรสืบสวน สภ.บ่อวิน ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1762-3244 ได้ตลอดเวลา เพื่อจะได้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการก่อเหตุของ 2 คนร้ายรายนี้ กระทำอย่างใจเย็นมาก โดยทำการงัดหลังคาด้านหลังร้านและปีนเข้ามาภายในร้าน จากนั้นได้ขึ้นไปบนห้องพักของเจ้าของร้าน และได้เคาะประตูห้อง ซึ่งเจ้าของร้านนึกว่าเป็นสามีจึงเปิดประตู แต่พบเป็นคนร้ายจึงได้ผลักล้มลง และจับตัวเจ้าของร้านมัดไว้พร้อมได้รื้อทรัพย์สิน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยก่อนจะออกไปจากร้านได้ทำลายหลักฐานกล้องวงจรปิด โดยนำเครื่องบันทึกภาพไปแช่ในน้ำเพื่อไม่ให้ใช้การได้ แต่เจ้าหน้าที่นำไปซ่อม จนเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน จึงต้องการให้ผู้ที่รู้เบาะแสเข้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้
ด้าน นางนันท์จิตรา เจ้าของร้านกล่าวว่า การถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ในครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เสียชีวิต แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวให้แก่ตนเป็นอย่างมาก จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ก็อาจไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ขณะนี้ทราบว่าเครื่องบันทึกภาพที่คนร้ายนำไปแช่น้ำเพื่อทำลายหลักฐานนั้น ทางเจ้าหน้าที่นำไปซ่อม และสามารถกู้ภาพคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด และเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน จึงขอให้สื่อมวลชนนำภาพไปเผยแพร่เพื่อให้ใครที่รู้แบะแสของคนร้ายรายนี้ จนสามารถติดตามจับคนร้ายได้ก็จะมีเงินรางวัลให้เพื่อเป็นการตอบแทน และเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกแนวทางหนึ่ง เพื่อจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป