xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ร้านทองโคราช เจ้าของทำใจอาจไม่ได้ทอง 3 ล้านคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา และ พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายบุกจี้ร้านทองไท้เฮงล้ง ตราช้าง 4  กลางเมืองโคราช วันนี้ ( 13 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-ผู้ว่าฯ โคราช รุดตรวจร้านทองถูกคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้กวาดทองไปกว่า 3 ล้าน ขณะร้านทองเปิดให้บริการตามปกติแล้ว เจ้าของทำใจอาจไม่ได้คืน และตั้งรางวัลนำจับ 3 แสน ขณะผู้การฯ โคราช เผยคดีคืบหน้า ล่าสุด ศาลออกหมายจับคนร้ายตามภาพสเกตช์แล้ว เชื่อยังกบดานในพื้นที่

วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองไท้เฮงล้ง ตราช้าง 4 เลขที่ 508 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กวาดทองรูปพรรณไปรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เกิดเหตุเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ร้านทองไท้เฮงล้ง ตราช้าง 4 พร้อมดูภาพเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุที่กล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกไว้ได้อีกครั้ง ขณะที่ร้านทองได้เปิดให้บริการตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังดูแลความปลอดภัยอยู่รอบบริเวณร้านอย่างเข้มงวด

นางพนิดา ศรีเสรีนุวัฒน์ เจ้าของร้านทองไท้เฮงล้ง ตราช้าง 4 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น จากนี้คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนทองที่หายไปก็ต้องทำใจไว้ก่อนอาจจะได้คืนหรือไม่ได้คืนก็ยังไม่รู้ ซึ่งบริษัทประกันได้ติดต่อมาเบื้องต้นแล้วแต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร หรือชดใช้ให้อย่างไร

โดยทองรูปพรรณที่ถูกคนร้ายชิงไปพนักงานนับโดยละเอียดแล้วมีน้ำหนักรวม 146 บาท แยกเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 22 เส้น และสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 18 เส้น มูลค่ารวมประมาณ 3 ล้านบาท ขณะนี้ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ได้สเกตช์ภาพใบหน้าคนร้ายจากปากคำให้การของพยานซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณหน้าวัดสะแก ใกล้กับร้านทองที่เกิดเหตุ และเห็นใบหน้าของคนร้ายขณะนั่งรอดูลาดเลาก่อนลงมืออย่างชัดเจน โดยคนร้ายเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ-นามสกุล อายุประมาณ 30-40 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร รูปร่างเล็ก เดินขาด้านขวากะเผลก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับคนร้ายตามภาพสเกตช์ใบหน้า

ล่าสุด ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติออกหมายจับ ชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ตามภาพสเกตช์ใบหน้าคนร้ายแล้ว ตามหมายจับ ที่ จ.111/2557 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2557 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

“ขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมาได้กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อแกะรอยเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามจุดต่างๆ ซึ่งพบคนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางแยกห้างฯ ไอที พลาซ่า ถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครราชสีมา และเชื่อว่าคนร้ายยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา” พล.ต.ต.พงษ์เดช กล่าว

ร้านทองเปิดให้บริการตามปกติแล้ว

ภาพสเกตซ์ใบหน้าคนร้าย
 หมายจับ
กำลังโหลดความคิดเห็น