ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลป์ลงพื้นที่ตรวจเก็บรายเอียดเกี่ยวกับกรณี “แม่อุ้มบุญ” ของชาวออสเตรเลีย ด้าน “แม่อุ้มบุญ” ยืนยันไม่นำตัว “น้องแกมมี่” เข้ากรุงเทพฯ เผยอาการโดยรวมดีขึ้นมากถ้าไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 3-4 วันนี้
จากกรณีที่อดีตสาวรับจ้างตั้งท้องออกมาแฉ “ธุรกิจอุ้มบุญ” โดยใช้น้ำเชื้อจากชายชาวออสเตรเลีย ผสมกับไข่ของสาวจีนเป็นตัวอ่อนมาฝังในมดลูกของเธอ และพบว่าเธอตั้งท้องเป็นแฝดชายหญิง แต่ต่อมาพบว่า ทารกชายเป็นดาวน์ซินโดรม หมอแนะนำให้ทำแท้งโดยไม่บอกเหตุผล เธอจึงเลือกเอาเด็กไว้จนคลอด สุดท้ายผู้ว่าจ้างเอาเด็กหญิงไป แล้วทิ้งเด็กชายที่ป่วยไว้ให้เลี้ยง ยอมรับทำไปเพราะขาดความรู้ และต้องการหาเงินใช้หนี้ สุดท้ายออกมาเปิดใจของผลการตัดสินใจโดยไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จนเกิดความเศร้าสลดใจถึงตัวเด็กบริสุทธิ์ที่เกิดมาโดยต้องรับกรรมที่ตนเองไม่ก่อเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนสติหญิงสาวชาวไทยที่คิดที่รับจ้างอุ้มบุญให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ โดเอากรณีของตนตัวเป็นตัวอย่าง
ล่าสุด วันนี้ (5 ส.ค.) นายอาคม ประดิษฐ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลป์ ได้นำคณะเดินทางตรวจสอบมาตรฐานทางการรักษาของโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีราชา ในวันนี้ พร้อมเผยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เป็นการเดินทางมาตรวจสอบมาตรฐานทางการรักษาของโรงพยาบาลแห่งนี้เท่านั้น ซึ่งในแต่ละปีจะเดินทางมาตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ในปีนี้เดินทางมาเร็วกว่าปกติเท่านั้น และจากการตรวจสอบพบว่า เป็นสถานพยาบาลที่ดีแห่งหนึ่งของประเทศ ที่มีมาตรฐานตามหลักสากล
ประกอบกับสถานพยาบาลแห่งนี้มีกรณีของแม่อุ้มบุญ จึงได้มีการพูดคุยกับแม่ของน้องแกมมี่ เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ และรายละเอียดบางส่วน เพื่อนำข้อไปเสนอผู้บริหารรับทราบถึงแนวทางในการดำเนินการว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป ซึ่งจากพูดคุยแล้วก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเสนอต่ออธิบดีฯ ต่อไป
ด้านนายวิจิตร พนายิ่งไพศาล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา เผยถึงอาการล่าสุดของ “น้องแกมมี่” ว่า จากการตรวจอย่างละเอียดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจไม่พบอาการผิดปกติตามที่เป็นข่าวในเบื้องต้นแต่อย่างใด นอกจากนั้น จากการตรวจอย่างละเอียดยังพบว่า น้องแกมมี่ มีเพียงอาการดาวน์ซินโดรม ที่มีลักษณะพัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติเท่านั้น และสามารถดูแลให้มีพัฒนาการที่ดีได้
ทั้งนี้ ผู้ปกครองยืนยันที่จะรักษาน้องแกมมี่ ที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลใด ซึ่งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา มีความมั่นใจเรื่องมาตรฐานการรักษาพยาบาลที่ถือว่าครบวงจร และดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งนี้ หากท้ายสุดแล้วอาการของน้องแกมมี่ ยากเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลฯ จึงจะเคลื่อนย้ายไปรักษาที่สาขาศรีนครินทร์ ที่มีความพร้อมด้านเครื่องมือต่างๆ ในการดูแลเด็กเล็กที่ดี
ส่วนการตรวจสอบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทั้ง ปอด และไต พบว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ และขณะนี้โรงพยาบาลได้ดูแลรักษาตามอาการ