บุรีรัมย์ - ตำรวจสนธิกำลังทหารพราน ฝ่ายปกครอง บุกรวบหนุ่มใหญ่คาบ้านเช่า หลังใช้เครื่องแบบทหารพรานแอบอ้างเป็นนายทหารยศ ร.ต. ตบตาขนไม้พะยูงส่งนายทุนใหญ่ ยึดทรัพย์และอายัดบัญชีเงินฝากร่วม 10 ล้านบาท คาดทำเป็นขบวนการ เค้นสอบขยายผลหวังรวบเพิ่ม
วันนี้ (24 ก.ค.) พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ พ.ต.อ.ดำรงค์ รอดโพธิ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว. พ.อ.ทัศน์พล สุพีสุนทร ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผกก.สภ.ปะคำ และนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงษ์ นายอำเภอปะคำ นำตัวนายปัญญา อ่อนนวล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.1 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางจำนวนมาก มาแถลงที่หน้าสภ.ปะคำ หลังตำรวจ สภ.ปะคำ ร่วมกับทหารพราน และฝ่ายปกครองอำเภอปะคำ เข้าจับกุมนายปัญญาในบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.ปะคำ
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ลักลอบขนไม้พะยูง และผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่านายปัญญาเป็นผู้บงการให้ลักลอบขนไม้พะยูงส่งขายให้นายทุน จึงได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่านายปัญญามีพฤติการณ์ชอบแต่งเครื่องแบบทหารพราน แอบอ้างว่าตนเองเป็นนายทหารยศ ร.ต.เพื่อสะดวกต่อการกระทำความผิด ทั้งเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่อีกด้วย
เมื่อเข้าตรวจสอบภายในบ้านเช่าของนายปัญญา พบเครื่องแบบทหารพรานสีดำ 3 ชุด รองเท้าคอมแบต 2 คู่ เครื่องแบบปกติขาวประดับยศร้อยตรี 1 ชุด บัตรประจำตัวทหารพรานสังกัด ทพ.26 ปลอม 12 ใบ แต่ละใบระบุชื่อไม่ซ้ำกัน
นอกจากนั้นยังพบปืนพกสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุนอีกกว่า 200 นัด ป้ายทะเบียนรถยนต์ 8 แผ่น ไม้พะยูง 4 ท่อน รถยนต์ที่มีการดัดแปลงเพื่อใช้ในการลักลอบขนไม้ 4 คัน ทองคำรูปพรรณจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งอายัดบัญชีเงินฝาก 3 เล่มไว้ตรวจที่ไปที่มาด้วย ซึ่งทรัพย์สินที่ตรวจยึดและบัญชีธนาคารที่อายัดไว้ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายปัญญาส่งให้ ร.ต.ต.สุรศักดิ์ สายสิงห์ พนักงานสอบสวน สภ.ปะคำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ยศโดยไม่มีสิทธิ
ด้าน พล.ต.ต.ชัยเดชกล่าวว่า จากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาคาดว่าน่าจะทำเป็นขบวนการ ซึ่งได้กำชับให้ตำรวจท้องที่สืบสวนขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีทั้งหมด เพื่อสนองนโยบายของ คสช.ในการกวาดล้างปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ทั้งยังมีการแอบอ้างตัวเป็นเจ้าพนักงานของรัฐในการกระทำผิดด้วย ซึ่งจะต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
