xs
xsm
sm
md
lg

ปาเลสไตน์เผยโฉม “หน่วยคอมมานโดหญิง” ชุดแรกของเวสต์แบงก์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี - กลุ่มหญิงสาวชาวปาเลสไตน์ในชุดฝึกและผ้าคลุมผมโรยตัวลงมาจากหอสูงเท่าตึก 6 ชั้น ระดมยิงปืนยาวจู่โจมใส่รูปภาพผู้ก่อการร้าย และฝึกซ้อมต่อสู้เหมือนฉากในภาพยนตร์ขณะส่งบุคคลสำคัญขึ้นรถยนต์ จากนั้นจึงสลายตัวไปอย่างรวดเร็วหลังกราดกระสุนไล่หลัง

หญิงสาวทั้ง 22 คนนี้คือ ว่าที่สมาชิกหน่วยคอมมานโดรุ่นบุกเบิกในสังคมที่ชายเป็นใหญ่แห่งนี้ ซึ่งทางการได้วางแผนจะมอบหมายให้พวกเธอเป็นสมาชิกหญิงชุดแรก ใน “กองกำลังคุ้มกันประธานาธิบดี” (Presidential Guards) ซึ่งเป็นกองกำลังความมั่นคงระดับหัวกะทิของปาเลสไตน์ที่มีกำลังพล 2,600 คน โดยสาเหตุที่มีการเกณฑ์สตรีเข้ามาร่วมงานเช่นนี้ป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในเขตเวสต์แบงก์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ปราการความต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงเริ่มทลายลงมาเป็นบางส่วน ดังสังเกตได้จากการที่มีผู้หญิงก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ผู้พิพากษา และคณะรัฐมนตรี หรือเริ่มต้นประกอบธุรกิจส่วนตัวกันมากขึ้น และในเวลาเดียวกันเผ็นผลมาจากการที่ อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และการที่ครอบครัวเริ่มเปิดโอกาสให้สตรีสามารถทำงานที่ขัดต่อธรรมเนียมดั้งเดิมมากขึ้น หากสิ่งนั้นทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

พลจัตวา ราชิเดห์ มุกห์รอบี ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่ประเด็นปัญหาด้านเพศภาวะในกองกำลังความมั่นคงของชาติปาเลสไตน์เปิดเผยว่าถึงแม้ ผู้หญิงจะครองสัดส่วนเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ของปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์ ที่มีทั้งหมด 30,000 คน แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่ทางการจะว่าจ้างเจ้าหน้าที่หญิงเพิ่มขึ้น

กองกำลังคุ้มกันประธานาธิบดีหญิงที่ผ่านการคัดเลือกชุดนี้มาจาก ผู้ที่เมื่อปีที่แล้ว สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย “อินดิเพนเดนซ์” ซึ่งเป็น สถาบันฝึกฝนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลักสูตร 4 ปีในเมืองเจรีโช ของเขตเวสต์แบงก์

กูรุม ซาอัด บัณฑิตจากสถาบันแห่งนี้ ได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมกองกำลังอย่างกะทันหัน และเธอก็ตอบตกลง แม้ว่าเธอควรจะได้อยู่ในฝ่ายบริหาร เนื่องจากเป็นบทบาทตามประเพณีของเจ้าหน้าที่หญิง ทว่าเธอบอกว่าต้องการผจญภัย

เมื่อวานนี้ (6) ซาอัด และคนอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันสวมรองเท้าคอมแบต ชุดพรางดำ และสวมหน้ากากครึ่งใบหน้าสีดำทับผ้าคลุมผมเพื่อสาธิตให้ผู้สื่อข่าวเห็นสิ่งที่เธอได้รับการฝึกอบรมเป็นพิเศษ

หญิงหลายคน ซึ่งรวมถึงพวกที่ว่ายน้ำไม่เป็นถูกสั่งให้กระโดดลงสระว่ายน้ำเพื่อทดสอบความกล้า แล้วให้พวกเธอว่ายน้ำทั้งชุดเครื่องแบบเต็มตัวโดยห้ามถอดรองเท้าบู๊ต ขณะที่มีหญิงคนหนึ่งได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ผู้หญิงจำนวน 6 คนซึ่งรวมถึงซาอัด โรยตัวลงมาจากหอทีมีความสูงเท่าตึก 6 ชั้นทีละคู่ ซาอัดกล่าวว่าเธอยิงปืนแม่น แต่ยังต้องพยายามเอาชนะความกลัวความสูงมาหลายเดือน เธอกล่าวว่าในช่วงฝึกซ้อมในจอร์แดนร่วมกับหน่วยคอมมานโดที่นั่น เธอต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง และวานนี้ (6) เธอสามารถโรยตัวลงจากตึกสูงภายในเวลาอันรวดเร็ว และยิ้มไม่หุบตอนลงสู่พื้น

ซาอัดกล่าวว่า เธอรู้สึกดีที่บทบาทของเธอจะช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ได้รับโอกาสเดียวกัน นอกจากนี้พ่อภูมิใจในตัวเธอ และน้องสาวตัวน้อยก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังนี้เช่นกัน

ในเวลาที่ผู้หญิงกำลังฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกซ้อมของกองกำลังคุ้มกันประธานาธิบดี ซึ่งมีกำแพงล้อมรอบในเจริโช เมื่อถูกเรียกรวมพลหลังมีโอกาสได้พักเหนื่อยบ้างเป็นบางครั้ง ชายหนุ่มหลายร้อยคนกำลังยืนเข้าแถวขณะดวงอาทิตย์กำลังแผดแสงแรงกล้าในทะเลทราย

พวกเธอเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกของกองกำลัง หลังได้อ่านประกาศรับสมัคร แต่ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกอันแสนเข้มงวด โดยมีผู้ที่สูงที่สุดและแข็งแรงที่สุดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับการรับเลือก

กองกำลังประธานาธิบดีจัดตั้งขึ้นในสมัย ยัสเซอร์ อาราฟัต อดีตผู้นำปาเลสไตน์ผู้ล่วงลับซึ่งเดินทางไปทั่วโลก ขณะที่ต้องใช้ช่วงชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างแดน จนกระทั่งสามารถเดินทางกลับปาเลสไตน์อีกครั้งเมื่อปี 1994 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงสันติภาพชั่วคราวกับอิสราเอล และก่อตั้งรัฐบาลปกครองตนเองขึ้นมา

ส่วนในสมัยของ ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ซึ่งก้าวขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากอาราฟัต กองกำลังชุดนี้จะมีหน้าที่อารักขาความปลอดภัยให้แก่ผู้แทนสำคัญจากต่างประเทศ ทั้งยังได้รับการฝึกฝนให้สามารถทำภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายได้อีกด้วย

สมาชิกหน้าใหม่ที่เป็นหญิงบางส่วนกล่าวว่า พวกเธอเชื่อว่าจะได้ปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนบ้านเกิดของตนเอง แต่ก็มีแผนจะได้เดินทางและไปผจญภัยในต่างแดนระยะสั้นด้วย โดยเมื่อวันเสาร์ (5) พวกเธอได้ยื่นขอวีซาไปยุโรป เพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรมในอิตาลี ในเวลาเดียวกันครูฝึกชาวอิตาลีและฝรั่งเศสก็จะเดินทางมาที่เจริโช เพื่อสอนวิธีรับมือกับการขับรถผิดกฎจราจร และทักษะในการอารักขาบุคคลสำคัญ

รามี ซัมมาร์ วัย 23 ปี เพื่อนร่วมกองกำลังที่เป็นผู้ชายกล่าวว่า เขาได้เฝ้าสังเกตการณ์ฝึกของผู้หญิงและประทับใจ โดยเขากล่าวว่า “สิ่งที่ผมเห็น คือพวกเธอต้องฝึกหนักไม่แพ้พวกเราที่เป็นผู้ชาย”

กำลังโหลดความคิดเห็น