xs
xsm
sm
md
lg

ญาติอดีต ส.จ.ปัตตานี เหยื่อกระสุน 3 จังหวัดชายแดนใต้ร้องหาความยุติธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - เจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวอดีต ส.จ. ปัตตานี และ ผอ.โรงเรียนปฏิบัติธรรมมูลนิธิ ที่ถูกยิงเสียชีวิต ญาติเผยผู้ตายเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ ต่อสู้จนศาลยกฟ้อง แต่ก็ยังถูกกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่ซ้ำอีก ครอบครัวขอเรียกร้องความยุติธรรม

วันนี้ (16 ส.ค.) ที่บ้านเลขที่ 46/4 ม.4 บ้านปูลากาซิง ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายอับดุลรอฟา ปูแทน อดีตสมาชิกสภาจังหวัดปัตตานีหลายสมัย และผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิบัติธรรมมูลนิธิ ได้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวเพื่อให้ขวัญกำลังใจ และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว หลังจากที่ต้องสูญเสียผู้นำครอบครัวอันเป็นที่รัก และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนปฏิบัติธรรมมูลนิธิ ในระหว่างที่ขับรถยนต์กระบะตามลำพังเพื่อเดินทางกลับจากเข้าร่วมประชุมเตรียมจัดงานวัฒนธรรมอำเภอยะรัง ประจำปี 56 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอยะรัง เนื่องจากผู้ตายดำรงตำแหน่งประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอยะรัง จนเสียชีวิตทันทีภายในรถ

เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.21 น. ของวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่าน บนถนนทางหลวงสาย 410 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.1 บ้านต้นไผ่ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง ท่ามกลางความโศกเศร้าของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นที่รักของประชาชนในพื้นที่ เคยดำรงตำแหน่งประธานชมรมฟัรดูอีน ประจำอำเภอยะรัง (PUSTAKA) หรือประธานชมรมตาดีกามาหลายสมัย เป็นอาจารย์สอนสามัญที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด พ.อ.บุญสิน พาดกลาง ผบ.ฉก.ทหารพราน 22 ได้นำกำลังทหารแต่งชุดคอมแบต พร้อมอาวุธครบมือ 10 นาย เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว โดยมีญาติๆ ให้การต้อนรับ ส่วนภรรยาผู้ตายนั้นยังคงเก็บตัวอยู่กับญาติผู้ใกล้ชิด เพราะยังคงรับสภาพการสูญเสียในครั้งนี้ยังไม่ได้ หลังจากต้องสูญเสียบุคลในครอบครอบถึง 2 คนในห่วงเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน

เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามายิง นายอิสมาแอล ปาโอ๊ะมานิ โต๊ะครูปอเนาะบ้านปูลากาซิง เสียชีวิตคาสุเหร่า ซึ่งเป็นพี่ชาย แล้วต้องมาสูญเสีย นายอับดุลรอฟา ปูแทน ซึ่งเป็นสามีที่รักเมื่อเย็นของวันที่ 14 สิงหาคม อีกด้วย

นอกจากนี้ ในวันเวลาเดียวกัน ยังได้มี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้นำคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยปลัดอำเภอยะรังฝ่ายความมั่นคง ตัวแทน ศอ.บต. รอง ผบก.ภจว.ปัตตานี พ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก สภ.ยะรัง พ.ต.ท.อันธี ก่ออารีย์ รอง ส.สภ.ยะรังร่วมเดินทางมาเยี่ยมครอบครัว เพื่อให้กำลังใจ และมอบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ ทางอำเภอยะรังได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นหนึ่งแสนบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัว โดยมีทางญาติของผู้ตายเป็นผู้รับมอบ

ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ทางพนักงานสืบสวนและสอบสวน สภ.ยะรัง ได้เร่งการสืบสวนและสอบสวนเพื่อทำคดีนี้ให้กระจ่าง หลังจากคนในพื้นที่ตำบลกอลำ ได้เกิดเหตุถูกลอบยิงเสียชีวิตในลักษณะนี้มาแล้วหลายราย และครั้งนี้นับเป็นรายที่ 15 ที่คดียังคงหาผู้กระทำผิดไม่ได้ จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในกระบวนการสืบสวน และสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามลักษณะรถของคนร้ายที่ก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอีกไม่นานคงรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะตอนนี้มีปลอกกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นปลอกกระสุนปืนสงครามชนิด AK 2 ปลอก ชนิด M16 จำนวน 26 ปลอก ขณะนี้ได้ส่งไปพิสูจน์แล้วคาดว่าคงสามารถระบุที่มาของอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่ไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายลอบยิง นายอับดุลรอฟา ปูแทน สร้างความเสียใจให้แก่สมาชิกของครอบครัว รวมทั้งญาติพี่น้อง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ซึ่งผู้ตายเป็นบุคลที่รัก กลับถูกเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ยังคงกล่าวหาว่า ผู้ตายเป็นแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ก็ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงได้มีการกล่าวหาผู้ตายมาแล้ว จนมีการจับกุม และผู้ตายประกันตัวดำเนินต่อสู้คดีตามกระบวนยุติธรรม จนกระทั่งในที่สุดศาลจังหวัดปัตตานีได้มีการพิพากษายกฟ้อง และมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาเป็นอิสระ ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ผู้ต้องหาก็กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากข้อกล่าวหา

หลังจากได้มีคำพิพากษามาแล้วว่าไม่ผิด แต่ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ยังคงกล่าวหาผู้ตายซ้ำอีกหลังจากที่อดีตผู้ต้องคดีถูกลอบยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม หรือว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะหน่วยความมั่นคงไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลในพื้นที่ แล้วประชาชนในพื้นที่จะหวังไปพึ่งความยุติธรรมจากที่ไหน จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว

ความจริงหน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการจับคุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อนำมาดำเนินคดีของบ้านเมือง ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ทำไมกลับมาใส่ร้ายผู้ถูกกระทำซ้ำเติม นี่หรือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และหน่วยความมั่นคงภายในของไทย ญาติผู้ตายได้กล่าวทิ้งท้าย





 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น