ศูนย์ข่าวศรีราชา- น้าสาวพาหลานชาย อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกอาสาท่องเที่ยวเมืองพัทยาทำร้ายร่างกาย
วันนี้ (18 ก.ค.) นางชม้าย สืบยุบล อายุ 40 ปี พานายสนธยา คนคิด อายุ 18 ปี หลานชาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังหลานชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาท่องเที่ยวพัทยา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายสนธยา ให้การว่า ขณะที่ตนเองกับเพื่อน และน้าสาวรวม 7 คน ได้นั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณชายหาดท่าเทียบเรือเก่า พัทยาใต้ ขณะนั้นได้มีกลุ่มตำรวจอาสาท่องเที่ยวขับรถไฟฟ้ามา และเรียกไปตรวจค้นโดยกล่าวหาว่าไปมองหน้า
ก่อนที่ 1 ใน จำนวนนั้น ทราบชื่อคือ นายประภาษ อินทรปานนท์ รหัสประจำตัว 7253 จะพาเข้าไปในป้อมใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะลงมือเตะด้วยรองเท้าคอมแบตเข้าที่ชายโครง และแขน รวมทั้งใช้มือตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง ก่อนที่จะนำตัวมาตรวจหาสารเสพติดแต่ไม่พบ ทั้งหมดแยกย้ายกันไป จึงมาเล่าให้น้าสาวฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนั้นจึงพากันมาแจ้งความร้องทุกข์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว นายสนธยา ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะเรียกอาสาคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (18 ก.ค.) นางชม้าย สืบยุบล อายุ 40 ปี พานายสนธยา คนคิด อายุ 18 ปี หลานชาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังหลานชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาท่องเที่ยวพัทยา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายสนธยา ให้การว่า ขณะที่ตนเองกับเพื่อน และน้าสาวรวม 7 คน ได้นั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณชายหาดท่าเทียบเรือเก่า พัทยาใต้ ขณะนั้นได้มีกลุ่มตำรวจอาสาท่องเที่ยวขับรถไฟฟ้ามา และเรียกไปตรวจค้นโดยกล่าวหาว่าไปมองหน้า
ก่อนที่ 1 ใน จำนวนนั้น ทราบชื่อคือ นายประภาษ อินทรปานนท์ รหัสประจำตัว 7253 จะพาเข้าไปในป้อมใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะลงมือเตะด้วยรองเท้าคอมแบตเข้าที่ชายโครง และแขน รวมทั้งใช้มือตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง ก่อนที่จะนำตัวมาตรวจหาสารเสพติดแต่ไม่พบ ทั้งหมดแยกย้ายกันไป จึงมาเล่าให้น้าสาวฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนั้นจึงพากันมาแจ้งความร้องทุกข์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว นายสนธยา ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะเรียกอาสาคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย