xs
xsm
sm
md
lg

มิจฉาชีพหลอกญาติคนตาย โอนเงินงวดประกันแลก 6 แสน แจ้ง ตร.ถูกกระแทกซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - มิจฉาชีพหากินกับศพ หลอกญาติคนตายยกครัวให้โอนเงินค่างวดประกันชีวิตที่ค้างก่อนจะรับ 6 แสน โร่วิ่งแจ้งความกับตำรวจกลับถูกพูดกระแทกซ้ำ ด้านธนาคารเช็กประวัติปลายทางมิจฉาชีพ ระบุชื่อ “สมชาย แซ่โค้ว” เปิดบัญชีกรุงไทยที่อยุธยา มีเงินโอนเข้านับ 100 ครั้ง

วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสำรวย วงษ์สุวรรณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 368 ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน โดยอ้างว่าจะได้รับค่าประกันชีวิตของบุตรชายวงเงิน 600,000 บาท

นางสำรวยกล่าวว่า ตนเป็นแม่ของนายสุรศักดิ์ วงษ์สุวรรณ อายุ 31 ปี และลูกสะใภ้ คือ นางสาวทัศนี วงศ์ แพงภักดิ์ อายุ 31 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ริมถนนพิษณุโลก-บึงพระ ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับลูกในครรภ์นางสาวทัศนี อายุ 8 เดือน จากนั้นตนก็จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพลูกชายและลูกสะใภ้ ที่วัดบึงพระ มีกำหนดฌาปนกิจในเย็นวันนี้

กระทั่งเช้าวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมามีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของตน บอกขอแสดงความเสียใจกับตนและครอบครัว พร้อมกับแจ้งว่าลูกชายตนทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ตนจำชื่อบริษัทไม่ได้ แต่ลูกชายตนขาดส่งเบี้ยประกันมาระยะหนึ่ง พร้อมอธิบายลักษณะของการทำประกันคล้ายกับที่ตนเคยทำ ดูน่าเชื่อถือมาก บอกให้ตนโอนเงินเข้าไปยังบัญชีชื่อนายสมชาย แซ่โค้ว ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา

ตนเลยหลงเชื่อ เพราะลักษณะคำพูด และการอธิบาย ที่บอกให้เตรียมเอกสารต่างๆ ทั้งสำเนาใบมรณบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน และบริษัทจะนำพวงหรีดพร้อมเงินประกัน 600,000 บาท มาให้ที่วัดบึงพระ ช่วงเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน

นางสำรวยกล่าวว่า ระหว่างจัดงานศพเสียใจกับเหตุการณ์สูญเสียลูก จึงไม่ทราบว่าลูกชายตนทำประกันชีวิตไว้หรือไม่ และไม่ได้ค้นเอกสาร ประกอบกับลักษณะคำพูดหว่านล้อม จึงหลงกลไปโอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก ครั้งแรก 5,646 บาท จากนั้นก็ขับรถกลับมาที่วัดบึงพระ

ปรากฏว่าผู้ชายคนเดิมก็โทรศัพท์เข้ามาอีกว่ายังขาดเงินอีก 2,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าให้นายเซ็นอนุมัติเพื่อนำเงินค่าประกันชีวิตมาให้ ตนก็บอกว่ามารับที่วัดได้หรือไม่ เพราะไม่อยากเสียเวลาอีก ผู้ชายคนนั้นก็หว่านล้อมอีก ตนกับน้องชายจึงกลับไปที่ธนาคารกรุงไทย แล้วโอนเงินไปให้อีกรอบ รวม 2 ครั้ง จำนวน 7,646 บาท และกลับมารอที่วัดบึงพระ

แต่เวลาผ่านไปถึงบ่าย ผู้ชายคนดังกล่าวก็ไม่มาตามที่นัดหมายและนำพวงหรีดพร้อมหลักฐานต่างๆ มาให้ จึงเอะใจโทรศัพท์กลับไปพบว่าไม่สามารถติดต่อได้ สุดท้ายรู้ว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมือง

“แต่พอไปแจ้งความที่ สภ.เมืองก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่ประทับใจอีก เมื่อพบตำรวจก็เล่าให้ฟังว่าถูกหลอก กำลังเสียใจ ไม่ได้ฉุกคิด กลับเจอคำพูดตำรวจนายหนึ่ง ทำนองว่าก็อยากไปให้เขาหลอกเอง”

จากนั้นก็ไปพบพนักงานสอบสวนอีกนายหนึ่งในห้องพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความ และพนักงานสอบสวนก็รับแจ้งความแล้ว ตนก็นำใบแจ้งความกลับมาที่ธนาคารกรุงไทย ทำให้ผู้จัดการตรวจสอบทันที พบว่า นายสมชาย แซ่โค้ว เป็นคนมีภูมิลำเนาอยู่ จ.สระบุรี มาเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทยสาขาศูนย์การค้าอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ 2 เดือนแล้ว และมีเงินโอนเข้ามาลักษณะนี้ร่วม 100 ครั้ง เมื่อตนโอนเงินไปแล้ว 2 รอบก็มากดเงินออกไปทันทีทั้ง 2 รอบ ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา และจากการเช็กบัญชีก็พบว่าบัญชีนี้มีแต่เงินโอนเข้า ไม่เคยฝาก

นางสำรวยบอกว่า ตนนำหลักฐานที่ได้จากธนาคารกรุงไทยกลับมาพบพนักงานสอบสวนอีกรอบ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับ แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนที่รับเรื่องกลับบอกว่า “ตามเงินไม่ทันแล้ว กลับไปจัดงานศพก่อนดีกว่ามั้ย แล้วค่อยมาคุยกัน”

ตนจึงบอกว่า “ไม่ใช่ รู้แล้วว่ามันตามไม่ทัน แต่ไม่อยากให้คนอื่นโดนหลอกแบบนี้อีก สภาพจิตใจก็แย่อยู่แล้ว ยังมาโดนหลอกอีก” ตำรวจก็บอกว่า “ไม่ต้องไปห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองเถอะ”

นางสำรวยบอกว่า เราพยายามหาหลักฐานจากธนาคารมาให้ แต่ยังมาเจอคำพูดจากตำรวจแบบนี้อีก เงิน 7,000 บาทอาจจะไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับเราที่สูญเสียคนในครอบครัว สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ซ้ำยังมาโดนหลอกแบบนี้อีก แค่อยากให้ตามจับคนร้ายให้ได้ หลักฐานก็มีพร้อม กล้องวงจรปิดก็มี คนอื่นจะไม่โดนหลอกอีก

นางสำรวยกล่าวอีกว่า เช้าวันนี้มีนายตำรวจคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาหาตน บอกว่าสอบถามเรื่องคดี และขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ตอบกลับไปว่าคำขอโทษของคุณทำกับประชาชนได้อย่างไร ลูกน้องของคุณที่เป็นตำรวจทำไมพูดกับประชาชนอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ประชาชนกำลังเสียใจ ขอร้องว่าไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอกต่อ และถ้าจับคนร้ายได้ ก็อยากจะเจอหน้าคนร้ายที่มาหลอกลวงตน ซ้ำเติมคนที่สูญเสียด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น