จับโจรแสบอ้างเป็นบริษัทประกันภัย ตุ๋นเงินญาติคนตาย

ตร.กองปราบฯ ตามจับโจรแสบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ตุ๋นญาติคนตาย หลอกให้โอนเงินให้ก่อนรับเงินค่าสินไหมทดแทน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้าน พบประวัติโชกโชนมีหมายจับติดตัวอีก 5 คดี



วันนี้ (6 ส.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายสมชาย แซ่โค้ว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/24 หมู่ 8 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ จ.133/2557 ลงวันที่ 29 พฤษภาคมม 2557 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น ได้ที่ห้องพักภายในอาคาร “มาดี อพาร์ทเม้นท์” หมู่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนหลายรายว่าถูกมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตโทรศัพท์มาแจ้งกับผู้เสียหายที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตว่าทางผู้เสียชีวิตได้ทำประกันชีวิตเอาไว้แต่ยังไม่ได้ชำระเบี้ยประกันที่ขาดส่งในงวดล่าสุด ให้ญาติโอนเงินมาเพื่อรับเงินประกันของผู้ตาย บางครั้งก็หลอกให้ญาติผู้ตายโอนเงินเป็นค่าดำเนินการต่างๆ ก่อนจะรับเงินสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตของผู้เอาประกัน ทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมากรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

พ.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวต่อว่า ภายหลังได้รับแจ้งจึงสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายสมชาย ซึ่งเคยถูกชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.จับกุมเมื่อปี 2553 โดยใช้พฤติการณ์ลักษณะคล้ายคลึงกันในการหลอกลวงเหยื่อ นอกจากนี้ยังพบว่าได้ถูกศาลออกหมายจับไว้ 5 คดี ในท้องที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี, สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี, สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี, สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อได้ข้อมูลแน่ชัดว่าผู้ต้องหารายนี้กบดานอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงวางแผนเข้าติดตามจับกุมไว้ได้

พ.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าเคยถูกจำคุกเมื่อปี 2555 เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2556 ในคคีฉ้อโกงทรัพย์ พฤติกรรมในการกระทำความผิดครั้งนั้นจะแอบอ้างกับผู้เสียหายที่จัดงานเลี้ยงต่างๆ ว่าเป็นเจ้าของโต๊ะจีนที่นำมาจัดงานแล้วเรียกเก็บเงินกับเจ้าของงาน โดยที่เจ้าของโต๊ะจีนที่แท้จริงไม่ทราบเรื่อง ก่อนจะเชิดเงินหลบหนีไป กระทั่งมาก่อเหตุลักษณะดังกล่าวอีก

สอบสวนนายสมชายรับสารภาพว่าเคยถูกจำคุกที่เรือนจำใน จ.สระบุรี ระหว่างนั้นได้รู้จักกับเพื่อนนักโทษที่สอนวิธีการหลอกลวงดังกล่าวให้ เมื่อพ้นโทษออกมาจึงวางแผนก่อเหตุ โดยจะหาซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านข่าวว่าที่ไหนมีอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิต เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เสียชีวิตก็จะโทรศัพท์ไปที่สายด่วนบริการสอบถามเลขหมาย 1133 หาเบอร์โทรศัพท์จากองค์กรปกครองท้องถิ่นแล้วติดต่อญาติเหยื่อ อ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทประกันชีวิตอ้างว่าผู้เสียชีวิตทำประกันไว้ในวงเงิน 6 แสนบาท ขอให้ทางญาติโอนเงินค่าดำเนินการมา 5,000 บาท แล้วจะคืนค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดให้ โดยมีผู้หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้ หลังจากได้เงินก็จะปิดเบอร์โทรศัพท์หลบหนี

“ผมเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งจนจำไม่ได้ว่าทำมากี่หน ก็มีทั้งผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินมาให้จริง และที่ไม่ได้โอนมาเหมือนกัน ซึ่งทำเช่นนี้เกือบทุกวัน ได้เงินมาประมาณ 1 ล้านบาท โดยเงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่าย ส่วนใหญ่แล้วผมจะเลือกเหยื่อที่อาศัยอยู่ตามชนบท เพราะหลอกลวงได้ง่ายกว่าคนกรุงเทพฯ” นายสมชายกล่าว ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป