น่าน - รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่จี้ติด 4 คดีนายกสมาคมสลากฯ คนพิการ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบความเชื่อมโยง หลังพบพยายามเผาไม้เถื่อนชัดเจน แถมตุนน้ำมันนับหมื่นลิตร พร้อมตั้งข้อสงสัยเอี่ยวราคาหวยเกินราคาด้วย
วันนี้ (23 ก.ค.) พล.ต.ต.ประชา รัตนพันธุ์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผบก.ประจำตำรวจภูธรภาค 5 ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าสำนวนคดีไร่พุทธรักษา 88, ไร่จันทร์สม 88, ไร่พิมานมาศ และบ้านห้วยยาง ที่เกี่ยวพันกับนายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมสลากกินแบ่งคนพิการแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย
โดยได้เร่งรัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะความผิดชัดเจนเรื่องการก่อสร้างในพื้นที่โดยไม่ได้ขออนุญาต พร้อมกับให้นายเกียรติศักดิ์ ป้อมทองคำ นายอำเภอทุ่งช้าง และนายจิตร เสียงทอง นายก อบต.และ (ชื่อตำบลและ) เจ้าของพื้นที่ ให้ดำเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กรณีการไม่ขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งก่อสร้าง
ซึ่งหากมีหนังสือแจ้งไปถึงเจ้าของที่ดิน และยังฝ่าฝืนไม่ดำเนินการ ทาง อบต.สามารถระงับการก่อสร้าง และสั่งปรับเป็นเงินได้ รวมถึงอาจดำเนินคดีทางอาญาร่วมด้วย
นอกจากนี้ยังพบมีการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนนับหมื่นลิตรโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ทันที รวมถึงไม้แปรรูปในที่เกิดเหตุ ที่มีความพยายามเผาทำลายหลักฐานก่อนวันเข้าตรวจสอบ โดยพบว่าไม้ทั้งหมดเป็นไม้เถื่อน ไม่มีรูปรอยดวงตราประทับ หรือมีแหล่งที่มาที่ไปที่ชัดเจน
รอง ผบช.ภ.5 ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบหลักฐานในสำนวนให้รัดกุมมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายอำนวยได้เข้าชี้แจงต่อทางพนักงานสอบสวนแล้ว โดยอ้างว่าตนเป็นผู้พิการทางสายตา และได้มอบหมายให้นายเสวก แซ่ตัน และนายโชค กลิ่นอยู่ เป็นผู้จัดการแทนทั้งหมด ซึ่งขณะนี้คดีทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการสอบสวนขยายผล สำหรับเรื่องการได้มาของที่ดินนับพันไร่ และการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิ
พล.ต.ต.ประชาเปิดเผยว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และความเชื่อมโยงทั้งหมด เพื่อขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง นอกจากนี้ยังตั้งประเด็นไปถึงเรื่องราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ตามราคา เนื่องจากคำให้การของนายอำนวย กลิ่นอยู่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมสลากกินแบ่งคนพิการแห่งประเทศไทย ระบุว่า มีรายได้จากการจัดสรรแบ่งโควตาสลากฯ คนพิการ เดือนละ 1 ล้านบาท
“ขณะนี้คดีคืบหน้าไปมาก แต่ก็จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อให้สำนวนรัดกุมมากที่สุด เนื่องจากคดีนี้มีหลายความผิด และหลายภาคส่วนเกี่ยวข้อง”
