กาญจนบุรี - นายอำเภอทองผาภูมิ เรียกประชุมหน่วยเกี่ยวข้อง ทั้งอุทยานแห่งชาติลำคลองงู นายก อบต.ชะแล ทหาร ฉก.ลาหญ้า ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และ ตร.ทองผาภูมิ เร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้านชะแล ที่รวมตัวประท้วงอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่ระงับการสร้างสะพานข้ามห้วยคลิตี้ หน.อุทยานแห่งชาติลำคลองงู แจงไม่ได้ระงับ แต่ให้รอการอนุญาตจากทางกรมอุทยานฯ ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการต่อได้
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ประมาณ 200 คน ร่วมชุมนุมที่บริเวณด้านอุทยานแห่งชาติลำคลองงู หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ เพื่อเรียกร้องให้ทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากกรณีการระงับการก่อสร้างสะพานข้ามลำห้วยคลิตี้
ต่อมา เมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) นายจำรัสกังน้อย นายอำเภอทองผาภูมิ ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายพงศ์สรรค์ ดิษฐานุพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู อ.ทองผาภูมิ นายบรรจง รสจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชะแล อ.ทองผาภูมิ ทหารจาก ฉก.ลาหญ้า ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อหาทางออกแก้ไขปัญหานี้
โดยในที่ประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น โดยได้ข้อสรุปว่า ทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จะหาทางช่วยเหลือชาวบ้านให้สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้ก่อนเป็นการชั่วคราว แต่ในส่วนของการก่อสร้างสะพานนั้นให้รอการอนุญาตจากทางกรมอุทยานฯ ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการต่อไป
นายพงศ์สรรค์ ดิษฐานุพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางหน่วยบินสำรวจของกรมอุทยานฯ ได้บินสำรวจการป้องกันรักษาป่าและตรวจพบว่า มีการนำเครื่องจักรเข้ามาทำการก่อสร้างสะพานคอนกรีตในพื้นที่หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีตข้ามห้วยคลิตี้ เพื่อทดแทนสะพานไม้เดิม ซึ่งตามระเบียบของกรมอุทยานฯ หากมีการกระทำใดๆ ในพื้นที่อุทยานฯ ต้องได้รับการอนุญาตตามระเบียบของกรมอุทยานฯ
ในเบื้องต้นได้มีการจับกุมตรวจยึดรถแบ็กโฮ 1 คัน และมีการสั่งให้ผู้รับเหมาสร้างสะพานหยุดการดำเนินการจนกว่าจะมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินโครงการได้จากกรมอุทยานฯ แต่คาดว่าชาวบ้านได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนว่า ทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ไม่อนุญาตให้สร้างสพานต่อ ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นความจริง
ทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้เร่งทำเรื่องเสนอต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เพื่อเสนอต่อกรมอุทยานฯ เพื่อพิจารณาอนุญาตในเรื่องการสร้างสะพานนี้แล้ว แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการเรื่องได้ผ่านไปถึงกรมอุทยานฯ แล้ว
แต่ในเบื้องต้นนี้ตนจะดูเกี่ยวกับระเบียบข้อกฎหมายก่อนว่าสามารถเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านให้สัญจรไปมาได้อย่างไรก่อน ส่วนเรื่องการก่อสร้างต่อต้องการอนุญาตจากรมอุทยานฯ เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ได้พูดคุยกับทางนาย อบต.ชะแล แล้ว และจะได้ร่วมกันทำความเข้าใจต่อชาวบ้านให้รับทราบต่อไป