กาฬสินธุ์ - อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ สั่งพักการสอนอาจารย์สาวแสตมป์แลกเกรด หัวหน้าสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการสอนเด็ดขาด ย้ำนักศึกษาไม่ต้องกลัวการข่มขู่ ด้านเจ้าตัวยังเงียบ ขณะที่นักศึกษาปฐมวัย 53 แฉเพิ่มหลายคนถูกข่มขู่บังคับให้จัดฉากแถลงข่าวไม่ได้ร้องเรียน ขู่ถูกฟ้องมีผลต่อผลการเรียน
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปอาจารย์วิชาสาขาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ บังคับให้นักศึกษานำแสตมป์เซเว่นฯ และเครื่องแก้วมาแลกเกรด จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอาจารย์สาวคนดังกล่าว ซึ่งต่อมามีกลุ่มตัวแทนนักศึกษาวิชาเอกปฐมวัย คณะครุศาสตร์ หรือนักศึกษาปฐมวัย 53 ออกมาแถลงชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิป และไม่ได้ร้องเรียนนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ค.) ผศ.นพพร โฆสิระโยธิน รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ได้สั่งให้อาจารย์สาวคนดังกล่าวหยุดการสอน โดยห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอน หรือการออกไปศึกษานิเทศก์นักศึกษาเด็ดขาด แต่ยังให้มาทำงานตามปกติเพราะต้องรอผลสอบ พร้อมเร่งสรุปสำนวนสอบสวนวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพครูเพื่อพิจารณาบทลงโทษ ขณะที่เจ้าตัวยังเก็บตัวเงียบไม่ยอมปรากฏตัวหรือชี้แจงแต่อย่างใด
ผศ.นพพร โฆสิระโยธิน รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กล่าวว่า แม้จะมีตัวแทนนักศึกษาวิชาเอกปฐมวัยออกมาแถลงข่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิปครูสาวแสตมป์แลกเกรด และอ้างว่าไม่ได้ร้องเรียนอาจารย์นั้น ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นนักศึกษาเพียงหนึ่งกลุ่ม อาจจะถูกบังคับมา ส่วนอีกหนึ่งกลุ่มไม่ได้เข้าร่วม ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมามีการร้องเรียนจริง ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ พบมีหลักฐานพยานชัดเจน จากนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และสอบจรรยาบรรณ โดยส่วนใหญ่คณะกรรมการจะเป็นคนนอกเพราะต้องการความเป็นธรรม
ซึ่งผลสอบของคณะกรรมการก็พบว่ามีมูลความผิดวินัยร้ายแรง เบื้องต้นได้สั่งให้หยุดสอนแล้ว โดยไม่ให้เข้าไปยุ่งกับการเรียนการสอน หรือการออกไปศึกษานิเทศก์กลุ่มนักศึกษาปฐมวัย 53 ที่กำลังฝึกสอนอย่างเด็ดขาด
ผศ.นพพรกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยจะไม่ยอมให้อาจารย์ที่กระทำผิดมีอิทธิพลเหนือนักศึกษา เพราะฉะนั้นนักศึกษาไม่ต้องกลัวว่าอาจารย์คนนี้จะมีผลต่อการออกเกรดหรือผลการเรียน ขอให้สบายใจได้ ซึ่งต่อไปจะเรียกกลุ่มนักศึกษาปฐมวัย 53 ทั้งหมดมาทำความเข้าใจ ส่วนการพิจารณาบทลงโทษนั้นจะต้องรอคณะกรรมการที่กำลังสรุปผลการสอบจรรยาวิชาชีพครูร้ายแรงเสนอเข้ามา จากนั้นจะมีการพิจารณาโทษ และรายงานที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย
ซึ่งโทษผิดวินัยและผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูร้ายแรงจะต้องถึงขั้นไล่ออกหรือปลดออก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็พร้อมดำเนินการทันที เพื่อยุติเรื่องและรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ต่อไป
ด้านนักศึกษาวิชาเอกปฐมวัยหรือนักศึกษาปฐมวัย 53 คนหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องอาจารย์บังคับเอาแสตมป์เซเว่นฯ ชุดเครื่องแก้วมาแลกเกรดนั้นเป็นความจริงตามคลิปภาพที่ปรากฏทั้งภาพและเสียง ส่วนกรณีการไปศึกษาดูงานที่ต้องจ่ายเงินคนละ 7,300 บาท และให้เอาชุดเครื่องแก้วมาแลกเกรดที่อาจารย์บังคับไปนั้นก็เป็นความจริง เพราะส่วนใหญ่นักศึกษาไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นการไปเที่ยว อีกทั้งหากใครไม่ไปก็ต้องจ่ายเงินครึ่งหนึ่ง ทุกคนจึงต้องจำใจไป
สำหรับกรณีที่มีตัวแทนกลุ่มนักศึกษาออกมาแถลงข่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้ร้องเรียนอาจารย์เรื่องแสตมป์ ชุดเครื่องแก้วนั้น ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่านักศึกษาสาขาวิชาเอกปฐมวัย รุ่น 53 นั้นมี 2 ศูนย์ หรือ 2 ห้อง คือศูนย์ทำการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย มีนักศึกษา 14 คน และศูนย์นอกทำการเรียนการสอนโดยใช้ห้องวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ มีนักศึกษา 20 คน บางคนถูกจัดฉากมา บางคนมาร่วมนั่งอยู่ในห้องแถลงข่าว แต่ไม่สามารถพูดได้ บางคนต้องอุ้มลูกน้อยมา เพราะก่อนหน้านี้ถูกข่มขู่ว่าจะฟ้องร้อง จะตัดคะแนนลดเกรด และมีเพื่อนโทรศัพท์ไปบอกว่าให้มาให้กำลังใจอาจารย์ เพราะหากไม่มาจะมีผลต่อการเรียน มีผลต่อการขอใบประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากนักศึกษาปฐมวัย 53 ทั้งหมดอยู่ระหว่างการออกฝึกสอน และมีอาจารย์คนดังกล่าวเป็นผู้ออกศึกษานิเทศก์ จึงจำเป็นต้องออกมาแถลงข่าว