พิธีรดน้ำศพ นศ.พยาบาลเหยื่อไฟใต้สุดเศร้า หลังทราบข่าวบิดา-มารดาใจสลาย (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศพิธีรดน้ำศพ น.ส.สุธีรา หรือน้องชิ เพ็ชรจันทร์ นศ.ฝึกงานพยาบาลเหยื่อไฟใต้เป็นไปด้วยความเศร้าโศก ด้านบิดา-มารดาเผยรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของน้องชิเป็นที่สุด วอนเจ้าหน้าที่ช่วยจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สำนักสงฆ์บ้านช้างไห้ ม.3 ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา บรรยากาศงานศพน.ส.สุธีรา หรือน้องชิ เพ็ชรจันทร์ อายุ 30 ปี นักศึกษาปี 3 วิทยาลัยพยาบาลยะลา ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต พร้อมกับ น.ส.กุลรดี เพชรมาก อายุ 21 ปีชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนนักศึกษาสาวขณะที่เดินจับจ่ายซื้อสิ่งของเครื่องใช้บริเวณตลาดนัดข้าง รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.ยะหา และญาติได้นำศพ น.ส.สุธีรา เดินทางกลับภูมิลำเนามาที่ อ.นาทวี เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเศร้าโศก มีนายปรีชา และนางวิไล ทีปรักษ์พันธ์ บิดาและมารดา ของน้องชิ และญาติพี่น้อง พร้อมกับนายสุทิศ สามี และบุตรสาวอายุ 10 ปี ของน้องชิ และเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก

นายปรีชา และนางวิไล ทีปรักษ์พันธ์ บิดาและมารดา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่นึกเลยว่าคนร้ายจะโหดเหี้ยมทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้ถึงขณะนี้ ตนมีบุตรสาว 2 คน น.ส.สุธีรา เป็นบุตรสาวคนโต แต่งงานกับนายสุทิศ เพ็ชรจันทร์ มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 10 ขวบ ส่วนบุตรสาวคนเล็กชื่อ น.ส.สุภาพร ทีปรักษ์พันธ์ อายุ 22 ปี เรียนสาขาภาษาเพื่อการพัฒนา วิชาเอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนเองทำใจนะ เนื่องจากลูกสาวตนเองถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ก็แทบเป็นลมช็อกทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ทั้งวัน จนเพื่อนบ้านได้ช่วยกันปลอบใจนึกสงสารลูกมาก

นายปรีชา กล่าวว่า น.ส.สุธีรา ลูกสาวคนโต เคยบ่นอยู่เสมอว่าไม่อยากอยู่ที่ จ.ยะลา อยากให้พ่อช่วยวิ่งเต้นย้ายให้ลูกไปอยู่ที่ จ.สตูล แต่ตนเองได้บอกลูกสาวว่า ลูกเอ๋ยพ่อไม่มีปัญญาหรือกำลังที่จะวิ่งเต้นย้ายได้เพราะไม่รู้จักใครให้ลูกอดทนอยู่ที่ต่อไป และสอนลูกสาวเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน ซึ่งพอเกิดเหตุการณ์ขึ้นตนเองรู้สึกเสียใจ และเจ็บใจมากที่ไม่สามารถช่วยเหลือย้ายลูกสาวได้ตามที่ลูกขอ ซึ่งลูกสาวจะกลับมาเยี่ยมตนที่บ้านประมาณเดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละ 5-7 วันแล้วแต่โอกาสที่หัวหน้าสั่ง ปกติ น.ส.สุธีรา ไม่เคยเดินออกนอกบริเวณโรงพยาบาล ซึ่งตนอยากฝากบอกให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และให้ทำสุดความสามารถ และขอให้เป็นคดีสุดท้ายเพื่อไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับคนอื่นอีก