นักศึกษา ม.ราชภัฏกาฬสินธุ์ แจงคลิปแสตมป์แลกเกรดไม่เป็นความจริง พร้อมแถลงพรุ่งนี้

กาฬสินธุ์ - นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์แจง คลิปอาจารย์สอนปฐมวัยขอแสตมป์แลกเกรดไม่เป็นความจริง เตรียมแถลงข่าวพรุ่งนี้ ขณะที่อธิการบดีออกแถลงการณ์เป็นพฤติกรรมความผิดส่วนบุคคล พร้อมเร่งสอบวินัย

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปแสตมป์แลกเกรดลงยูทิวบ์ ชื่อ “อาจารย์ราชภัฏสาว แสตมป์เซเว่นฯ-เครื่องแก้วแลกเกรด” ซึ่งระบุว่าถูกบันทึกเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2557 จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างกว้างขวาง

คลิปดังกล่าวมีเนื้อหาข้อความว่า นักศึกษาภาคพิเศษถูกอาจารย์สาขาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง บังคับให้ไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม โดยอ้างว่าไปดูงาน แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มีการดูงานตามที่กล่าวอ้าง แถมยังมีคำสั่งพิเศษให้ซื้อชุดเครื่องแก้ว หรือนำแสตมป์ 7-11 มาแลกเกรด ทำให้มีนักศึกษาบางคนหมดเงินซื้อของเพื่อให้ได้แสตมป์กว่า 400 ดวง มาแลกเกรด A และด้วยความอึดอัดใจ นักศึกษาได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังอธิการบดี แต่เรื่องราวกลับเงียบหาย ซ้ำยังถูกอาจารย์คนดังกล่าวข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุให้นำคลิปนี้มาเผยแพร่สู่สาธารณะ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

ล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ โดย ผศ.นพพร โฆสิระโยธิน รักษาการอธิการบดี ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีคลิปพฤติกรรมอาจารย์ ที่เผยแพร่ออกไปทางสื่อต่างๆ โดยข้อความระบุว่า ตามที่มีผู้นำคลิปของอาจารย์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ นั้น

มหาวิทยาลัยขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกันว่า กรณีนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล หลังจากที่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนักศึกษา เรื่องพฤติกรรมอาจารย์ประพฤติตนไม่เหมาะสม ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานการสอบสวนพิจารณา เพื่อลงโทษทางวินัยข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนของทางราชการ สรุปดังนี้

นักศึกษาสาขาปฐมวัย ชั้นปีที่ 4 ภาคพิเศษ รหัสปี 2553 ได้ส่งหนังสือร้องเรียนมายังอธิการบดี กรณีอาจารย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับนักศึกษา เรียกรับสิ่งของจากนักศึกษา เพื่อแลกการปรับค่าคะแนน บังคับให้นักศึกษาไปศึกษาดูงานทั้งในและนอกประเทศ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2557

เมื่อได้รับหนังสือแล้วทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาข้อกล่าวหา และได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ทราบความเป็นจริงและเกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทันที

จากนั้นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง จึงได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีมูลอันเป็นความผิดทางวินัย เสนอต่ออธิการบดี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 แต่เนื่องจากรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงมีมูลอันเป็นความผิดทางวินัย มหาวิทยาลัยจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานการสอบสวนพิจารณาเพื่อลงโทษทางวินัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย

ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะนักศึกษาปฐมวัย 53 อีกหนึ่งกลุ่ม ได้ทำหนังสือโดยขอนัดสื่อมวลชนแถลงข้อเท็จจริงวันที่ 17 กรกฎาคม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ โดยข้อความได้ระบุว่า ตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งยูทิวบ์ เฟซบุ๊ก แมเนเจอร์ออนไลน์ กระปุก เป็นต้น โดยกล่าวหาว่าอาจารย์สาวให้นักศึกษาเอาแสตมป์เซเว่นฯ และชุดเครื่องแก้วแลกเกรด ถูกบังคับให้ไปเที่ยวเวียดนามอ้างไปดูงาน ซึ่งไม่เป็นความจริง

เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของอาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ไม่พอใจกัน จึงได้หาทางกลั่นแกล้ง โดยทำหนังสือร้องเรียนส่งให้มหาวิทยาลัย โดยท้ายหนังสือลงชื่อผู้ร้องเรียนว่าเป็นปฐมวัย 53 เมื่ออาจารย์ที่ถูกร้องทราบเรื่อง ก็ได้อธิบายต่อนักศึกษาปฐมวัย 53 ถึงเรื่องข้อร้องเรียนว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร แต่มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งสนิทกับอาจารย์ที่ไม่พอใจ ได้แอบถ่ายคลิปดังกล่าวไว้

ข้อเท็จจริงนักศึกษาทั้งหมดไม่มีใครร้องเรียนอาจารย์ ผู้ที่ร้องเรียนเป็นอาจารย์ด้วยกัน โดยมีหลักฐานการคุยกันถึงเรื่องนี้ การตกแต่งและการปล่อยคลิป นักศึกษาทั้งหมดที่เห็นคลิปและข่าวที่ออกทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์ต่างไม่พอใจ เนื่องจากทำให้นักศึกษาปฐมวัย 53 เสียหาย

เพราะเรื่องไม่เป็นไปตามคลิปที่ปล่อยออกมา และยินดีร่วมแถลงข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบในวันเวลาที่แจ้ง