ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรภาค 4 โชว์ผลงานสามารถตรวจยึดรถส่งคืนเจ้าของได้ 1 คัน หลังผู้เสียหายถูกเพื่อนบ้านลวงให้เช่าซื้อรถให้แล้วหลบหนีลอยนวล ทิ้งภาระหนี้สิ้นก้อนโตนานกว่า 5 ปี
จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปจร.ภ.4 ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ลักษณะกระบะบรรทุกยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน บบ 1982 อุดรธานี จำนวน 1 คัน โดยตรวจยึดได้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ถนนระหว่างจังหวัดบึงกาฬ-ศรีวิไล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บึงกาฬ หลังพบพิรุธที่แผ่นป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับตัวรถ จึงนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลทะเบียนยานพาหนะกรมขนส่งทางบก ปรากฏว่า ไม่พบฐานข้อมูลจึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อนำมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
ต่อมา ได้ตรวจสอบรายละเอียดของรถยนต์แล้วพบว่า รถยนต์ดังกล่าวมีหมายเลขทะเบียนที่แท้จริง คือ ทบ 5315 เลย มีนายเทอม จันทมาตย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.13 ต.ผาน้อย อ.วังสพุง จ.เลย เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบพบ นายเทอม และได้สอบถามเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าวทราบว่า เมื่อประมาณปี 2551 นายคมกฤษ แก้วโวหาร ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ร้องขอให้ นายเทอม เช่าซื้อรถคันดังกล่าวในนามของนายเทอม
แต่นายคมกฤษ จะเป็นผู้ใช้รถ และผ่อนชำระค่างวดต่อทางธนาคารในนามของนายเทอม แต่หลังจากได้เช่าซื้อรถดังกล่าวได้ประมาณ 2 ปี ก็ทราบว่ารถยนต์ดังกล่าวหายไป และนายคมกฤษ ก็ไม่ผ่อนชำระราคาค่างวดต่อทางธนาคารที่เหลือ จำนวน 450,000 บาท ทำให้นายเทอม ต้องแบกรับหนี้สินชำระหนี้ตามที่ธนาคาร ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องร้องจนครบตามจำนวน แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ดังกล่าว เนื่องจากไม่ทราบว่ารถยนต์ดังกล่าวอยู่ที่ใด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.4 แจ้งให้ทราบว่า ได้ตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ที่ ศปจร.ภ.4
ด้านตำรวจภูธรภาค 4 โดย ศปจร.ภ.4 จึงได้ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เป็นผู้เช่าซื้อรถแทนบุคคลอื่นโดยไม่ได้ใช้รถเอง และขายดาวน์รถให้แก่บุคคลอื่น โดยไม่แจ้งเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท หรือธนาคารผู้ให้เช่าซื้อ ต้องมีความระมัดระวังอาจถูกหลอกลวง นำรถไปใช้ในการกระทำความผิด หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น นำรถไปจำนำ ปลอมแปลงเอกสารประกอบรถ หรือจำหน่ายให้แก่บุคคลอื่นต่อไป