ลำปาง - คนร้ายฉายเดี่ยวขับรถจักรยานยนต์ตามกระชากสร้อยคอทองคำสาวใหญ่ ที่ัขับรถจักรยานยนต์มาเพียงคนเดียวกลางวันแสกๆ ยังมีสติจับสร้อยไว้ ส่วนคนร้ายได้พระเลี่ยมทอง 1 องค์
วันนี้ (13 ก.ค.) ร.ต.ท.สุรเชษฐ สุริมา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมเชุดสืบสวน สายตรวจ ต.ชมพู เข้าตรวจสอบถนนสายเลี่ยงเมือง ปากทางเข้าโรงงานหมูยอป้าปี๋ บ้านร้อง ต.ชมพู หลังรับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อย และผู้เสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบ นางพิมล ศรีสุทธะ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 474 ม.4 บ้านศรีหมวดเกล้า ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ยืนหน้าซีดตัวสั่นรอให้การอยู่ข้างถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำห ทะเบียน ขทษ 360 ลำปาง จอดอยู่
สอบถามผู้เสียหายให้การว่า คนร้ายเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ท้วม สวมหมวกกันน็อกสีขาวแบบเต็มใบ ใส่เสื้อคอโปโลสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน รุ่นเก่า จำทะเบียนไม่ได้ จำได้ว่าข้างหน้าเป็นเลข 9 ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นพระหลวงพ่อเกษม รุ่นกิ่งไผ่เลี่ยมทอง 1 องค์ ส่วนสร้อยคอยังอยู่
นางพิมล ให้การว่า ทำงานที่โรงงานเซรามิก วันนี้วันหยุดจึงอาบน้ำแต่งตัวสวมใส่ชุดดำเพื่อไปร่วมงานศพ แต่ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปซื้ออาหารที่ตลาดกาดเมฆ ม.5 ต.ชมพู หลังซื้ออาหารเสร็จได้ขับรถออกจากตลาดเพื่อกลับบ้าน เตรียมไปร่วมงานศพ โดยขับรถมาตามถนนสายเลี่ยงเมือง ถึงที่เกิดเหตุใกล้กับปากทางบ้านเข้าโรงงานหมูยอป้าปี๋ คนร้ายเขับรถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้มือข้างซ้ายดึงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง แต่ตนตั้งสติได้จึงใช้มือดึงสร้อยไว้ คนร้ายจึงได้แค่พระเลี่ยมทองไป
จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไป ตนจึงขับรถไล่ตามก่อนที่คนร้ายจะเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านแล้วหลบหนีไปได้ เมื่อไล่ไม่ทันจึงย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งรูปพรรณ และรถที่คนร้ายก่อเหตุให้ลูกข่ายสกัดจับ แต่ก็ไร่วี่แวว สำหรับเหตุครั้งนี้คนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ยังติดตามจับกุมไม่ได้
