ลำปาง - เสี่ยเต็นท์รถเมืองลำปางถูกคนร้ายกระชากสร้อยหนัก 10 บาท ด้วยความเสียดายขี่รถตามแต่คลาดกับคนร้าย สุดท้ายวกกลับมาที่เกิดเหตุ โชคดีสร้อยขาดหล่นที่พื้นได้ครบทั้งสร้อยทั้งพระ
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่บริเวณซุ้มหน้าร้านเต็นท์รถมือสอง ติดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-เกาะคา ขาเข้าเมืองลำปาง บ.ต้า หมู่ 10 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ร.ต.อ.โสกิจ วรวงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองลำปาง เข้าตรวจสอบและสอบปากคำ นายสุภา สุวรรณจักร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 456 หมู่ 10 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เจ้าของเต็นท์รถมือสอง เพื่อสอบถามลักษณะรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุกระซากสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท แล้วขี่รถหลบหนีไปได้
โดยนายสุภาระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้ออาหารไก่ชนเพื่อให้ไก่กิน แต่ระหว่างทางขากลับขี่รถผ่านเขตติดต่อระหว่างบ้านชมพู หมู่ 7 และบ้านฟ่อน หมู่ 2 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ก็มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ไม่ทราบทะเบียน และสี คนร้ายแต่งตัวสวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ตามประกบแล้วดึงสร้อยคอที่ตนเองสวมใส่ แล้วขี่รถหลบหนีไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งตอนนั้นตนเองคิดอย่างเดียวคือต้องติดตามล่าตัวคนร้ายให้ทันโดยขับขี่รถไล่ตามคนร้ายไปกว่า 3 กิโลเมตรแต่คลาดสายตาก่อนถึงทางข้ามรถไฟดอนปาน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง
หลังจากที่คนร้ายคลาดสายตาตนจึงได้โทรศัพท์แจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นตนคิดเสียดายพระเลี่ยมทองที่มีถึง 7 องค์ซึ่งมีมูลค่าสูง และสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทที่ซื้อและสวมใส่มากว่า 20 ปีแล้วจะหายไปและไม่ได้คืน
แต่จู่ๆ ก็มีสิ่งดลบันดาลใจให้ตนกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งตนได้เดินค้นหาตามกองหญ้า ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนักก็พบพระเลี่ยมทองที่ขาดจากสร้อยตกอยู่ จากนั้นก็พบสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทและพระเหลี่ยมทององค์อื่นจนครบแต่สร้อยขาด ตนถึงกับน้ำตาไหลที่ได้พระคืนมาทั้งหมด ถือว่ายังโชคดีที่คนร้ายไม่ได้อะไรไปเลย ทั้งนี้วอนเจ้าหน้าที่เร่งสืบหาตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด
ล่าสุด พ.ต.ท.วิภาส แสงศศิธร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง มาสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมขอให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามห้างร้านต่างๆ ที่ใกล้เคียงเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายแล้ว
