หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สนธิกำลังศุลกากร และ สภ.เมืองหนองคาย รวบชายหญิงพร้อมรถยนต์กระบะวีโก้ พบปลอมแปลงเลขตัวถังรถ สวมทะเบียนปลอมขณะกำลังจะนำข้ามไปลาว สารภาพทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน ระบุรถวีโก้ 4 ประตูยอดฮิต
เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้ (3 เม.ย.) ที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ตม.4 พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.ชัชชัย วงค์สุนะ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงศ์สนิทธีรา รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองหนองคาย นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางจรรยา เกตุประเสริฐ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปไตย อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนายโพธิ์กฤษณะ คูวัธนไพศาล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/169 หมู่ 1 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน ชอ 4861 กรุงเทพมหานคร และโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน ญฬ 8641 กรุงเทพมหานคร ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารปลอม พยายามลักลอบนำรถยนต์ที่ได้มาโดยผิดกฎหมายออกนอกราชอาณาจักร แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ ศปร.นครบาล ได้แจ้งเฝ้าระวังกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถสวมทะเบียนออกนอกประเทศ จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ นางจรรยา และนายโพธิ์กฤษณะ ได้ขับรถกระบะมาคนละคันแล้วยื่นเอกสารขอนำรถข้ามไปยังประเทศลาว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นเล่มทะเบียนรถของจริงแต่มีการดัดแปลงนำมาใส่รถยนต์กระบะที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย มีการปลอมเลขแชสซี และเลขเครื่องยนต์ให้ตรงกับเลขในเอกสารทะเบียนรถ จึงคุมตัวไว้ และตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า นายโพธิ์กฤษณะ มีการเดินทางเข้าออกไปลาว 190 ครั้ง
ส่วนนางจรรยา 210 ครั้ง อีกทั้งรถยนต์กระบะทะเบียน ชอ 4861 กรุงเทพฯ นั้น เป็นรถของบริษัทโตโยต้าชัวร์นนทบุรี
จากการสอบสวนทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ โดยนายโพธิ์กฤษณะ ให้การว่า รถยนต์กระบะที่จะนำข้ามไปลาวนี้มีคนเตรียมการไว้ให้ที่กรุงเทพฯ ตนทั้ง 2 มีหน้าที่ขับรถนำไปส่งลูกค้าที่ประเทศลาว เมื่อไปถึงลาวจะมีคนมารับรถไป จากนั้นตนก็จะนั่งเครื่องบินจากเวียงจันทน์กลับกรุงเทพ ไปรับค่าจ้างคันละ 10,000-40,000 บาท
จากนั้นเมื่อมีรถอีกก็จะนำมาส่งอีก ทำเช่นนี้มาแล้วประมาณ 30 คัน ส่วนนางจรรยา ให้การว่าเพิ่งนำรถข้ามไป 8 คัน การที่เดินทางเข้าออกบ่อยเพราะตนมีร้านขายอะไหล่รถที่เวียงจันทน์ ซึ่งล้วนเป็นรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ขายง่าย และได้ราคาสูง หากเป็นราคาในไทย รถมือสองประมาณ 350,000 บาท แต่หากนำไปขายที่ลาวจะได้คันละ 700,000 บาท
พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า ขบวนการนี้น่าเชื่อว่าเป็นขบวนการใหญ่ ทั้ง 2 คนมีการเดินทางโดยผ่านด่านหนองคายบ่อยครั้ง รวมทั้งผ่านด่านนครพนม และด่านมุกดาหารเป็นบางครั้ง พฤติการณ์ของกลุ่มนี้จะหารถที่มีสี และลักษณะใกล้เคียงกับรถที่มีเอกสารทะเบียนถูกต้องนำมาดัดแปลงเลขแชสซี และเลขเครื่อง แล้วสวมทะเบียนปลอม ทำเรื่องขอออกนอกประเทศ เวลายื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ก็มักจะเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางเข้าออกมากเป็นพิเศษ หวังอาศัยช่วงคนมากคิดว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ตรวจสอบละเอียด
ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่ารถของกลางนี้ได้มาด้วยวิธีการโจรกรรมมาหรือไม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ประสานงานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง