แบงก์มั่นใจเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัว เครื่องยนต์หลักเริ่มทำงาน ส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุน

เอ็มดี ธ.ไทยพาณิชย์ มั่นใจเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัว มองการทำงาน คสช. ดีมาก ขอให้ทุกฝ่ายรอ ใจเย็น และให้เวลาการทำงาน พร้อมคาดงาน “SCB-FTI Factory Outlet” กระตุ้นการบริโภค มีเม็ดเงินไหลหมุนเวียน 18 ล้านบาท ขณะที่ ธ.กสิกรฯ ปรับเป้า “GDP” ปีนี้โตได้ 2.3% หลังการเมืองผ่อนคลาย แผนกระตุ้นเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น กลไกการดำเนินนโยบายของภาครัฐเริ่มเคลื่อนได้ ส่งผลดีต่อการบริโภค และการลงทุน

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีความมั่นใจถึงเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ทางเมืองได้คลี่คลาย ไม่มีความรุนแรง โดยผู้ประกอบการ ประชาชนได้กลับมาทำธุรกิจอย่างเต็มที่มากขึ้น ส่วนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยนั้น จะต้องติดตามเป็นรายไตรมาส

ภาพรวมของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 หรือ ร้อยละ 2 ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่จะต้องมุ่งไปที่การดำเนินการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องเร่งสร้างรากฐานเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว โดยมองว่า การกู้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท ขอให้ คสช. เลือกโครงการลงทุนที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลดีต่อประเทศจากการที่เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ นางกรรณิการ์ กล่าวว่า การทำงานของ คสช. ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น มาถูกทางแล้ว โดยผลงานอยู่ในระดับที่ดีมาก มีการเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน ช่วยเหลือชาวนาให้ได้รับเงินค่าจำนำข้าว ซึ่งหากดำเนินการต่อเนื่องไปอีก 3 เดือนเชื่อจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในภาพรวมให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น และให้เวลา คสช. ทำงาน

โดยในวันนี้ ธนาคาไทยพาณิชย์ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสินค้าคุณภาพมาตรฐานส่งออกในราคาพิเศษ “SCB-FTI Factory Outlet” ครั้งที่ 9 บริเวณหอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ได้นำสินค้ามาจัดแสดงภายในงาน พัฒนาธุรกิจให้เติบโต และช่วยกระตุ้นการซื้อขาย ช่วยให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

งานในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 225 ร้านค้า และคาดว่าการจัดงานตั้งแต่วันที่ 23-27 มิถุนายน 2557 ตั้งแต่เวลา 09.00-18 .00 น. ตลอดทั้ง 5 วันนี้ จะสามารถกระตุ้นรายได้และมีเม็ดเงินเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ได้กว่า 18 ล้านบาท

นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤตทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายลง กลไกการดำเนินนโยบายของภาครัฐเริ่มเคลื่อนได้ ส่งผลดีต่อการบริโภค และการลงทุน ซึ่งทาง คสช. ได้เร่งดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะถัดไป ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ปรับประมาณการการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ GDP ในปีนี้ให้ขยายตัวได้ดีขึ้นที่ร้อยละ 2.3 จากเดิมที่ได้ประเมินGDP ของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 1.8

แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยสถานการณ์ทางการเมืองในอิรัก จะเป็นปัจจัยกดดันที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะจะกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลต่อการส่งออกจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งทางศูนย์วิจัยประเมินว่า การส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3