ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “เจียเม้ง” ยักษ์ใหญ่โรงสีผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวไทย โวยถูกสอดไส้ข้าวเน่าในโกดัง 5 เอ จ.บุรีรัมย์ หลังบริษัทประมูลข้าวหอมมะลิเพื่อส่งออกพบข้าวสารเน่าเกือบ 200 ตัน เสียหายกว่า 5 ล้าน แจ้งความไว้นานกว่า 2 เดือนไม่คืบ อคส.ยังเฉยไม่รับผิดชอบ ล่าสุดร้องทหาร “ทภ. 2” ช่วย
วันนี้ (7 ก.ค.) นางประพิศ มานะธัญญา ประธานกรรมการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด ผู้ประกอบการโรงสีข้าวและผู้ผลิตจำหน่ายข้าวรายใหญ่ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางบริษัทเจียเม้งได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวสารกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ตามสัญญาเลขที่ คชก.ซข. (คน)15/2557 ลว. เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2557 ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทได้ทำการซื้อข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปีการผลิต 2555/56 (รอบ 1) คลัง หจก.เอเอเอเอเอ นำเข้าหลัง 1 ตั้งอยู่เลขที่ 808 ถ.โชคชัย-เดชอุดม ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 728.657212 ตัน แต่ทางบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการขนย้ายข้าวออกจากคลังให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 เม.ย. 2557 ตามสัญญาฯ กำหนดได้ เนื่องจากคุณภาพข้าวสารไม่ได้คุณภาพตามข้อตกลงซื้อขาย
ทั้งนี้ ก่อนที่จะประมูลตนพร้อมทีมงานได้เข้าไปตรวจสอบข้าวรอบกอง ก่อนซื้อ 10 วันพบว่าเป็นข้าวหอมมะลิชั้นดี เม็ดข้าวมีสีขาวปกติ แต่เมื่อมีการขนย้ายข้าวบางส่วนออกไปแล้วกลับพบว่า ข้าวในกองมีสีม่วงถึงดำเหมือนข้าวเน่า นอกจากนี้ยังมีข้าวเจ้าปนข้าวหอมมะลิด้วย รวมแล้วประมาณ 153,000 กก. จากการสังเกตลักษณะของกองข้าว คือเอาข้าวดีออกไปแล้วเอาข้าวที่ไม่ดีเอามาใส่ไว้แทน เป็นการตบตาและเป็นการขโมยข้าวคลังออกไป
ตนได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2557 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้ทำเรื่องแจ้งไปยัง อคส. เพื่อให้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าคลัง หรือเซอร์เวเยอร์ (บริษัทมาวิน คอนโทรล) ที่รับผิดชอบเข้ามารับผิดชอบและชี้แจงว่า เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร เพราะข้าวกองนี้ทางบริษัทได้จ่ายเงินซื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้ไม่สามารถออกข้าวได้
นางประพิศกล่าวอีกว่า ทาง อคส.แจ้งมาว่าจะตั้งกรรมการไปตรวจสอบ แต่จนถึงวันนี้เวลาผ่านมากว่า 2 เดือนแล้วยังไม่มีการตั้งกรรมการออกไปตรวจสอบ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายอย่างมากคิดเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เป็นข้าวเกือบ 200 ตัน เพราะข้าวกองนี้จะต้องนำไปส่งต่างประเทศ แต่เมื่อข้าวใช้ไม่ได้ทางบริษัทฯ ได้ติดต่อกับทางเซอร์เวย์เยอร์โดยตรงกลับถูกปฏิเสธและบอกว่าไม่ขอรับผิดชอบ
“ทาง อคส.มีการจ้างเซอร์เวเยอร์ จะต้องมีสัญญา จะต้องมีการค้ำประกัน เมื่อเกิดความไม่ถูกต้องแบบนี้ก็ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งเราเองก็ไม่เข้าใจ ล่าสุดได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านทาง พล.ต.อาชาไนย ศรีสุข รองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคอีสานไปแล้ว เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดจัดการแก้ไขปัญหาและเร่งรัดหน่วยงานต่างๆ เข้ามารับความเสียหายในครั้งนี้ให้กับบริษัทเนื่องจากช่วงนี้ คสช.ส่งคณะอนุกรรมการฯ ลงตรวจข้าวทั่วประเทศ คาดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทางทหาร” นางประพิศกล่าว