พิจิตร/อุตรดิตถ์ - เถ้าแก่โรงสีฟันธง จากวันนี้ไป (1 มี.ค.) คงไม่มีโครงการจำนำข้าวอีก เชื่อราคาข้าวตกเหลือ 6-7 พันบาทเท่านั้น เตือนรัฐเร่งระบายข้าว เจอต่างชาติลับมีดรอเชือดซ้ำ ขณะที่ล่าสุด ชาวนาอุตรดิตถ์ เกี่ยวข้าวใหม่ส่งโรงสีเจอกดราคาติดดินแค่ตันละ 2,200 บาท
นายจิรยุทธ วัยวราวุธ หรือ “เฮียบ๊วย” เจ้าของโรงสีมิตรเจริญ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร และเป็นเถ้าแก่ผู้ส่งออกในพื้นที่ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลขณะนี้ ว่า อยู่ในสภาวะ ICU แล้ว เพราะโครงการนี้รับจำนำข้าวสูงกว่าราคาตลาดเกือบ 1 เท่าตัว จึงทำให้ใช้เม็ดเงินมหาศาล แม้จะเป็นประโยชน์ต่อชาวนา แต่ต้องมาเสียหาย พราะวิธีปฏิบัติที่มีก่อให้เกิดการทุจริต อีกทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องเก่งไม่จริงในเรื่องการระบาย-ส่งออกข้าว
“เฮียบ๊วย” เถ้าแก่โรงสีชาวพิจิตร ยังให้ข้อสังเกตอีกว่า หลังสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 57 หรือตั้งแต่วันนี้ (1 มี.ค.57) คงไม่มีโครงการรับจำนำข้าวอย่างแน่นอน ดังนั้น ราคาข้าวเปลือกขายเงินสดให้แก่โรงสีต่างๆ คงไม่เกินตันละ 6 -7 พันบาท อาจเป็นเหตุผลให้ชาวนาต้องขาดทุน และจนลงๆ
รวมถึงถ้ายังไม่ได้เงินจากการจำนำข้าวปีการผลิต 56/57 ที่รัฐบาลยังติดค้างอยู่หว่าแสนล้าน ความทุกข์ก็จะกลายเป็นดินพอกหางหมูในชาวนาที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้ลุกฮือประท้วงเรียกร้องขอความช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้ก็จะกลายเป็นการยกระดับขับไล่รัฐบาล จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ส่วนการจะระบายขายข้าวสารในโกดัง และถังไซโลของจังหวัดพิจิตร ที่มีเกือบ 100 แห่ง มีปริมาณโดยรวมแล้วมากถึง 7.5 ล้านกระสอบ (ตั้งแต่ปี 54-57) และมีข้อกำหนดว่า อยากจะให้เอาข้าวสารในพิจิตรขาย ได้เงินแล้วก็ให้นำมาจ่ายชาวนาในพิจิตร 45,000 ครอบครัว ที่ยังรอเงินกว่า 7,300 ล้านบาทนั้น
“เฮียบ๊วย” บอกว่า เมื่อมีการระบายขายข้าวเร็ว เร่งขายในปริมาณมากๆ ต่างชาติรู้ทัน ก็เตรียมฝนมีดรอเชือดราคาข้าวของไทยให้ยิ่งตกต่ำลงไปอีก และเมื่อข้าวสารราคาตกต่ำ ราคารับซื้อข้าวเปลือกภายในประเทศต้นเดือนมีนาคม 57 เป็นต้นไปก็จะยิ่งถูกลง
“คราวนี้ราคาข้าวเปลือกอาจต่ำกว่าตันละ 5,000 บาทก็อาจเป็นไปได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายได้ทบทวนการเร่งระบายขายข้าวให้รอบคอบเสียก่อน”
ด้านนายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ แจ้งว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากชาวนาในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ จำนวนมากที่นำข้าวเปลือกไปขายให้แก่โรงสี ถูกกดราคาเหลือเพียงเกวียนละ 2,200 บาทเท่านั้น โดยเจ้าของโรงสีอ้างว่า เป็นข้าวเมล็ดลีบ มีสิ่งเจอปนมาก
ทั้งที่ข้าวเปลือกเป็นข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวออกมาจากท้องนา ก็นำมาขายให้แก่โรงสีทันที เพราะจำเป็นต้องใช้เงินไปใช้จ่ายค่าขนส่ง จ่ายค่ายา และอื่นๆ เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวจากรัฐบาล
นอกจากนี้ โรงสีบางแห่งจะส่งนายหน้าไปเจรจากับชาวนาถึงกลางทุ่ง เพื่อให้ขายข้าวให้แก่โรงสีไม่ให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำ โดยจะให้ราคารับซื้อจากปกติเกวียนละ 6,000 บาท เป็น 6,500 บาท และจากนั้นก็จะนำข้าวที่รับซื้อจากชาวนาไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำกับรัฐบาลในราคาตามโครงการ กินส่วนต่างตันละหลายพันบาท
ซึ่งชาวนาจำนวนมากก็ขายข้าวเปลือกแทนเข้าร่วมโครงการรับจำนำ เพราะต้องการเงินสด ถ้าเข้าร่วมจะยังไม่ได้รับเงินมีเพียงใบประทวนออกให้อย่างเดียว
“พฤติกรรมแบบนี้โรงสีข้าวเอาเปรียบชาวนามากเกินไป เปรียบเหมือนการทำนาบนหลังคน หากินบนความทุกข์ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของชาวนา อย่าโกงชาวนาอย่าเอาเปรียบชาวนามากจนเกินไป” นายสิทธิชัย กล่าว