ประจวบคีรีขันธ์ - พบผู้ป่วยลำไส้ทะลุแล้ว 2 ราย หลังกินเม็ดกระท้อน แพทย์เตือนอันตรายอาจถึงตาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้ป่วยปวดท้องรุนแรงหลังจากรับประทานเม็ดกระท้อน มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายแพทย์วิฑูรย์ ศรีศุกร์เจริญ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม ให้ข้อมูลว่า มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวอยู่จริง โดยปีนี้พบผู้ป่วยแล้ว 2 ราย ทั้งคู่เดินทางเข้ารักษาตัวด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หลังรับประทานเม็ดกระท้อนเข้าไป จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่ากลืนเม็ดกระท้อนเข้าไปเป็นอันขาด
“ช่วงนี้มีกระท้อนออกสู่ตลาดจำนวนมาก ใครที่ชอบรับประทานอย่ากลืนเม็ดกระท้อนเข้าไปด้วย เพราะเม็ดกระท้อนมีส่วนที่แหลมคมอยู่ตรงปลายเม็ดทั้ง 2 ข้าง ไม่เหมือนกับเม็ดมังคุด โดยเฉพาะคนที่มีประวัติเป็นโรคท้องผูกเรื้อรัง โดยพบว่า คนไข้ที่รับประทานเม็ดกระท้อนเข้าไป จะถูกปลายที่แหลมคมทั้ง 2 ข้างทิ่มตำสำไส้ใหญ่ส่วนล่างออกมาที่ช่องท้องพร้อมกับอุจจาระ จะทำให้เกิดภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ และอาจจะทำให้เสียชีวิตได้จากภาวะโลหิตเป็นพิษ เพราะการติดเชื้อในช่องท้อง”
นายแพทย์วิฑูรย์ กล่าวว่า คนไข้บางรายไม่เข้าใจคิดว่าปวดท้องธรรมดาจึงรักษากันเอง กว่าที่จะมาพบแพทย์เชื้อโรคก็กระจายเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว และทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น อาการไตวาย ทำให้คนไข้ไม่สามารถทนกับภาวะความเจ็บปวดที่รุนแรได้กระทั่งเสียชีวิต โดยทุกปีโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จะพบคนไข้ที่ป่วยจากการรับประทานเม็ดกระท้อนเข้าไปแล้วสำไส้ทะลุเป็นประจำ ปีละ 3-5ราย โดยปีนี้ มีผู้ป่วยแล้ว 2 ราย ซึ่งพบว่ามักจะเจอในคนไข้วัยกลางคนจนถึงสูงอายุ เพราะกระท้อนเป็นผลไม้พื้นเมืองโบราณ เด็กไม่ค่อยชอบรับประทาน
“ส่วนการรักษาต้องผ่าตัดเพื่อรักษาสำไส้ส่วนที่ทะลุ และนำสำไส้ส่วนดีมาไว้หน้าท้องเพื่อให้คนไข้ได้ขับถ่ายก่อนประมาณ 7-15 วัน หากไม่มีอาการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด คนไข้ก็กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ แต่จะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือนหลังผ่าตัด เพื่อรักษาสุขภาพให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ”
ด้านนายดวงดี ธรรมวัง อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 32/4 หมู่ 9 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพรับจ้างทำไร่สับปะรด คนไข้สำไส้ทะลุจากการกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไป กล่าวว่า ได้กินกระท้อน และกลืนเม็ดเข้าไปทั้งหมด 6 ลูก โดยกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไปด้วย 25-30 เม็ด ทั้งเม็ดใหญ่เม็ดเล็ก ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทั่งรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว ต้องมาพบแพทย์ให้รักษา และถูกพาเข้าห้องผ่าตัดทันที โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเป็นแผลยาวประมาณ 15 เซนติเมตร รักษาสำไส้ที่ทะลุ และนำสำไส้ส่วนดีมาไว้หน้าท้อง เพื่อให้ขับถ่ายทางหน้าท้อง ที่สำคัญพบเม็ดกระท้อนตกค้างอยู่ตรงจุดที่ทะลุ 10 เม็ด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ก็พบว่า ระหว่างการถ่ายอุจจาระ ยังมีเม็ดกระท้อนตกค้างไหลออกมาบ้างวันละเม็ด
“อยากขอเตือนคนที่ชอบกินกระท้อน อย่ากินเม็ดเด็ดขาด เพราะมันจะปวดท้องอย่างรุนแรง และจะต้องมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องสูญเสียรายได้อย่างตนเอง ซึ่งโชคดีที่มาพบแพทย์ได้ทัน ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้ ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลที่ดูแลรักษาผมเป็นอย่างดี”