xs
xsm
sm
md
lg

"คุณนายแม่ชีเชอรี่" ขับ "ปอร์เช่" อำนาจคับวัด พระ-ศิษย์กระเจิง สุดขำ "ธุดงค์โอเชี่ยน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พระครูสุธรรมวีราจารย์ หรือพระอาจารย์สมใจ เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมืองรูปปัจจุบัน ภาพจาก http://www.wattham.org/wattham_jaoarwaj.php
แกะรอยแม่ชีเชอรี่ ตอนที่ 2

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - เผยพฤติกรรมฉาว "คุณนายแม่ชีเชอรี่" แห่งวัดถ้ำขวัญเมือง ขับรถสปอร์ตปอร์เช่ ใช้เครื่องประดับแบรนด์เนมราคาแพงยังมีอีกเพียบ พร้อมกุมอำนาจทุกสิ่งทุกอย่างในวัดถ้ำขวัญเมืองเบ็ดเสร็จจนทุกคนต้องเกรงกลัว จนชาวบ้านรอบวัดในอำเภอสวี เอือมระอา ขณะที่พระสงฆ์ สามเณร รวมทั้งศิษย์ตั้งแต่ยุคสมัย "หลวงพ่อสรวง" ต้องแตกกระเจิง

เรื่องราวของนางสาวสุปริญญา ฮุนนางกุล หรือแม่ชีเชอรี่ แห่งวัดถ้ำขวัญเมือง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร ที่ปรากฏภาพขับรถสปอร์ตปอร์เช่ ใช้กระเป๋าข้าวของเครื่องประดับยี่ห้อแบรนด์เนมราคาสุดแพง พร้อมถ่ายภาพคู่กับกองเงินจำนวนมหาศาล ยังมีเรื่องราวให้น่าค้นหาอีกไม่น้อย เนื่องจากว่า จากประวัติที่ผ่านมา แม่ชีเชอรี่ ซึ่งขณะนั้นแม่ชีเชอรี่ มีอายุประมาณ 25 ปี จากวันที่ประสบความล้มเหลวในชีวิตก่อนมาห่มขาวก็กลายเป็นเป็นแม่ชีที่ร่ำรวยดังทุกวันนี้ ก็นับเป็นเวลาเกือบยี่สิบปี แน่นอนย่อมต้องมีเรื่องกล่าวขวัญถึงแม่เชอรี่กันอย่างกว้างขวาง

เช่น ขับรถสปอร์ตหรู สวมใส่ยกทรงที่สวยงาม มีการใช้เครื่องประทินผิวทาให้หน้าขาว ทาปากแดง ผูกผ้าพันคอลายดอก ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสีฉูดฉาดราคาแพง ใส่นาฬิกาข้อมือ เข้าคอร์สสปา อบหน้า นวดตัว ขัดผิว จนชาวบ้านใน อ.สวี ขนานแม่ชีเชอรี่ว่า "คุณนายแม่ชีเชอรี่"

รวมไปถึงเรื่องราวที่แม่ชีเชอรี่ ได้เดินเข้ามาในวัดถ้ำขวัญเมือง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างภายในวัดถ้ำขวัญเมือง จากยุคพระครูภาวนาภิรมย์ (สรวง ปริสุทฺโธ) หรือหลวงพ่อสรวง มาจนยุคปัจจุบันที่ศิษย์เก่าของวัดถ้ำขวัญเมืองพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นับแต่แม่ชีเชอรี่ ได้เข้ามากุมอำนาจ ทุกสิ่งทุกอย่างในวัดถ้ำขวัญเมืองก็เปลี่ยนไปราวหน้ามือเป็นหลังมือ

**กำเนิดคุณนายแม่ชีเชอรี่ ธุดงค์โอเชี่ยน

ทีมข่าวเฉพาะกิจ ASTVผู้จัดการ ได้ลงพื้นที่ อ.สวี จากการสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านละแวกนั้นได้ข้อมูลที่ตรงกันหลายประการว่า คนในตัวเมืองชุมพร มักจะพบเห็นแม่ชีเชอรี่อยู่บ่อยครั้ง ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือมา ชอปปิ้ง โดยการพบเห็นส่วนใหญ่ จะมีทั้งการที่มีลูกศิษย์ขับรถสปอร์ตหรูมาส่ง หรือรถยนต์ส่วนตัว โดยลักษณะการแต่งตัวของแม่ชีเชอรี่ พร้อมสรรพไปด้วยเครื่องแต่งกายหรูหราต่างจากแม่ชีทั่วไป เช่น ใช้เครื่องประทินผิวทาให้หน้าขาว ทาปากแดง ผูกผ้าพันคอลายดอก ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสีฉูดฉาดราคาแพง ใส่นาฬิกาข้อมือ และบางวันอาจใส่แว่นกันแดดสีดำ ห้อมล้อมไปด้วยลูกศิษย์ลูกหาที่มาเป็นคณะ หลายคน

ครั้งหนึ่งมีเรื่องราวติดตลกเกี่ยวกับ เรื่องนี้ของแม่ชีเชอรี่ว่า มีลูกศิษย์ของแม่ชีเชอรี่ได้ติดต่อ เข้ามาโดยโทร.เข้าเบอร์มือถือของแม่ชีเชอรี่ โดยมีกิจธุระเรื่องจะไปทำบุญที่วัดถ้ำขวัญเมือง ปรากฏว่าปลายสายโทรศัพท์ได้ตอบกลับลูกศิษย์แม่ชีเชอรี่ว่า "แม่ชีเชอรี่ไม่อยู่ที่วัด แม่ชีไปธุดงค์ที่โอเชี่ยน" ซึ่งชื่อนี้หากคนในพื้นที่ จ.ชุมพร ได้ยินเป็นต้องรู้จักแทบจะทุกคน ว่าเป็นโอเชี่ยน ช็อปปิ้งมอลล์ ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่แห่งเมืองชุมพร นั่นเอง

**ประกาศิตคุณนายเชอรี่ ได้ดั่งใจนึก

การเดินชอปปิ้งของแม่ชีเชอรี่ เรียกว่าอยากได้อะไรก็ชี้นิ้วสั่งเอา ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าคู่นั้น กระเป๋าใบไหน เสื้อผ้าอันใด ก็สามารถดลบันดาลชอปปิ้งได้ตามใจนึก เพราะเป็นที่รับรู้กันเป็นอย่างดีของชาวบ้านว่า จำนวนเงินที่แม่ชีเชอรี่ พกออกไปธุดงค์แต่ละครั้งนั้น มีจำนวนไม่น้อยไปกว่าเศรษฐีย่อมๆ เลยทีเดียว ประกอบกับการเดินแต่ละครั้งมักจะมีลูกศิษย์ร่วมธุดงค์ไปด้วย ถ้าลูกศิษย์ได้ยินว่าแม่ชีอยากได้สิ่งใด ลูกศิษย์บางคนก็จัดการให้อย่างเสร็จสรรพ แม้กระทั่งว่า หากแม่ชีชื่นชอบกระเป๋าแบรนเนม สวยๆ ของลูกศิษย์ บางคนถึงกับเทของใส่ส่วนตัวออกและยกกระเป๋าใบนั้นให้แม่ชีเลยก็มี

นอกจากนั้นแล้ว แม่ชีเชอรี่ยังนิยมชมชอบในการเข้าคอร์สสปา อบหน้า นวดตัว ขัดผิว ด้วยเหตุผลหลายประการนี้กระมัง ชาวบ้านใน อ.สวี จึงร่วมขนานแม่ชีเชอรี่ว่า "คุณนายแม่ชีเชอรี่" แบบเต็มปากเต็มคำ

**ธรรมะหลวงพ่อสรวงห้ามเผยแพร่

อย่างไรก็ตาม กว่าจะกำเนิดแม่ชีเชอรี่ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ยังมีเรื่องราวภายในวัดถ้ำขวัญเมืองของแม่ชีเชอรี่ ที่ได้รับกล่าวขวัญจากบรรดาคนเก่าแก่ที่เคยอยู่ในวัดถ้ำขวัญเมือง ซึ่งหลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า จุดพลิกผันความเปลี่ยนไปวัดถ้ำขวัญเมือง มาจากจุดเริ่มต้นแม่ชีเชอรี่ จับจุดเข้าหาพระครูสุธรรมวีราจารย์ (พระอาจารย์สมใจ) เป็นเจ้าอาวาสอย่างต่อเนื่อง จนลูกศิษย์บางคนถึงกับพูดเปรยๆ ออกมาว่า "เมตตาของพระอาจารย์เปลี่ยนไป"

และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างภายในวัดถ้ำขวัญเมือง จากยุคหลวงพ่อสรวง มาจนยุคปัจจุบันที่ศิษย์เก่าของวัดถ้ำขวัญเมือง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นับแต่แม่ชีเชอรี่ ได้เข้ามากุมอำนาจตั้งกฎภายในวัดทุกอย่างก็เปลี่ยนไปราวหน้ามือเป็นหลังมือ

ศิษย์หลายคนของหลวงพ่อสรวง ในสมัยนั้นถึงกับรับไม่ได้ถึงพฤติกรรมของแม่ชี เช่น แม่ชีเชอรี่ได้ตั้งกฏเหล็กว่าไม่ให้เผยแพร่ ธรรมะของหลวงพ่อสรวง ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อสรวงจะอัดเทปที่หลวงพ่อสรวงแสดงธรรมไว้จำนวนมาก โดยลูกศิษย์ สมัยหลวงพ่อสรวง จะอัดไว้ตอนที่หลวงพ่อสรวงแสดงธรรมไว้ครั้งเมื่อท่านยังไม่ละสังขาร จนถูกแม่ชีตามเก็บเทปธรรมะได้บางส่วนซึ่งส่วนที่เก็บได้ก็ไม่ให้เผยแพร่ธรรมมะออกไปนอกวัด หากใครอยากฟังธรรมหลวงพ่อสรวงต้องมาที่วัดถ้ำขวัญเมืองเท่านั้น เคยมีครั้งหนึ่งที่แม่ชีเชอรี่ทราบว่ามีลูกศิษย์หลวงพ่อสรวงนำธรรมมะไปเผยแพร่ในยูทิวป์ แม่ชีเชอรี่ถึงกับโกรธแค้นเป็นอันมาก

"มันผิดหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ที่เราเป็นศาสนิกชนที่ต้องช่วยกันเผยแพร่ธรรมให้คนอื่นซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลก เพราะการเผยแพร่ธรรมะเป็นกุศลสำหรับตัวเราเองและคนที่ได้รับธรรม จึงไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ชีถึงต้องตั้งกฎห้ามขนาดนี้ด้วย" แหล่งข่าวคนเก่าแก่วัดถ้ำขวัญเมือง ให้ข้อมูล

**อิทธิฤทธิ์ แม่ชีเชอรี่ พาวัดกระเจิง

นอกจากนั้นแล้ว คนเก่าแก่ของวัดถ้ำขวัญเมืองยังรับรู้กันดีถึงอิทธิฤทธิ์เรื่องห้ามใครเด่นดังเกินหน้าเกินตาไม่ได้ สมัยก่อนวัดถ้ำขวัญเมืองใครจะมาปฏิบัติบัติธรรมต้องมาปฏิบัติที่โรงธรรม ซึ่งจะมีรองเจ้าอาวาสมีหน้าที่สอนกรรมฐาน แก่ลูกศิษย์ แม่ชี ผู้มาปฏิบัติธรรม หรือใครก็ตามที่ต้องการเข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดถ้ำขวัญเมือง โดยรองเจ้าอาวาสจะเป็นที่เคารพรักและศรัทธาแก่คนทั้งหลาย จึงทำให้แม่ชีเกิดอาการไม่พอใจจนสั่งปิดโรงธรรมที่เคยใช้แสดงธรรม ปฏิบัติธรรมมาแล้ว

และถ้าจะกล่าวถึงแม่ชีเชอรี่ ในเรื่องการถือศีลและความเป็นอยู่ในทางปฏิบัติธรรมมะ หลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า แม่ชีเชอรี่ ไม่เคยสวดมนต์ ไม่เคยทำวัตร ไม่ถือศีล 8 และซ้ำร้ายยังเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมแต่งกายไม่สุภาพใส่เสื้อสายเดี่ยวอยู่ในวัดอยู่บ่อยครั้งด้วยซ้ำไป

**ศิษย์เก่ายึดคติหลวงพ่อสรวง -เชอรี่ได้ใจลุอำนาจ

อย่างไรก็ตาม เรื่องการลุอำนาจภายในวัด ยังแผ่ขยายเจอดีกันมาเกือบแล้วแทบจะทุกคน เช่น หัวหน้าแม่ชีที่มีหน้าที่จัดแจงธุระต่างๆ ภายในวัด เมื่อไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่แม่ชีตั้งกฎไว้ก็ยังโดนไล่ออกมาแล้ว รวมไปถึงแม่ชีคนอื่นๆ ก็เกิดเรื่องเกิดราวกับแม่ชีเชอรี่จนออกไปหมดวัด

ว่ากันว่า ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวของหลวงพ่อสรวง ก็ยังเคยมีเรื่องกับแม่ชีจนเจอไล่ พ้นกุฏิวัดมาแล้ว พระสงฆ์ที่ออกไปกิจนิมนต์ที่อินเดียหากไม่มารายงานให้แม่ชีเชอรี่ทราบก่อน กลับมาจากต่างประเทศเป็นต้องเจอรื้อกุฏิจนอยู่ในสภาพยับเยินไปหมด ไม่ว่าใครหน้าไหนหากหัวแข็งจะเจอแม่ชีเล่นยุทธการเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะถือว่าตัวเองเป็นเด็กเจ้าอาวาส หนักข้อขนาดที่ว่าหากใครมีเรื่องมีราวไม่ชอบพฤติกรรมของแม่ชี หากเรื่องล่วงรู้ไปถึงเจ้าอาวาส ผู้ที่มีเรื่องกับแม่ชีเชอรี่ จะต้องมีการขอโทษแม่ชีเชอรี่ เนื่องจากว่าเจ้าอาวาสไว้ใจแม่เชอรี่มากในทุกเรื่อง

สมัยก่อนมีกรรมการวัด อยู่ 14-15 คน ประชุมกันเรื่องต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จนมาเจอแม่ชีเชอรี่ยึดอำนาจ พอแม่ชีเริ่มยึดอำนาจ ลูกศิษย์หลวงพ่อสรวง ก็ไม่กล้าไปมีเรื่องมีราวด้วย เพราะยึดคติของหลวงพ่อสรวง ที่เคยสอนไว้ว่า "เขาด่าเราแต่เราอย่าด่าเขา เขาติเราแต่เราอย่าติเขา เขาฆ่าเราแต่เราอย่าฆ่าเขา"

**ตีตัวเสมอพระ ไหว้เจ้าอาวาสต้องไหว้แม่ชีเชอรี่

วัดถ้ำขวัญเมือง กล่าวได้ว่าเป็นวัดโด่งดังในสมัยก่อน ประชาชนทั่วไปศรัทธาหลวงพ่อสรวง แน่นอนว่าต้องมีคนเข้าไปทำบุญเข้าวัดจำนวนไม่น้อยในแต่ละวัน ซึ่งทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีแม่ชีเชอรี่เข้ามากุมอำนาจ พระสงฆ์ ลูกศิษย์เก่าของหลวงพ่อสรวง ที่มีแนวคิดไม่ศิโรราบกับแม่ชีต่างก็ต้องจะเห็จออกจากวัดหรือกล่าวง่ายๆ ก็คือ อยู่ไม่ได้หากใครที่แม่ชีเชอรี่ไม่ชอบหน้าบางคนจะถูกกันท่าไม่ให้ขึ้นไปกราบเจ้าอาวาส หรือกราบไหว้หลวงพ่อสรวง เลยทีเดียว

สอดคล้องกับหลักฐานป้ายประกาศป้ายหนึ่งที่แปะไว้ในบริเวณนั้นว่าห้ามบุคคลจำนวนหนึ่งเข้าวัดถ้ำขวัญเมืองเป็นอันขาด หากใครพบเห็นให้แจ้งแม่ชีเชอรี่ได้โดยตรง ซึ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนผู้พบเห็นแล้วพูดตรงกันไปในทิศทางเดียวกันว่า ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ สถานที่ซึ่งเป็นวัด ควรจะเปิดให้ทุกคนเข้ามาทำบุญ และยิ่งหากรู้ว่าใครที่ไปทำบุญกับวัดอื่น โดยเฉพาะวัดที่พระสงฆ์ที่เคยอยู่วัดถ้ำขวัญเมืองมาก่อนเป็นอันต้องอาจไม่ได้เข้ามาทำบุญในวัดถ้ำขวัญเมืองอีก

แหล่งข่าวศิษย์เก่าวัดถ้ำขวัญเมือง เปิดเผยว่า ในสมัยก่อนแม่ชีเชอรี่ได้เพิ่มอำนาจบาตรใหญ่ให้แก่ตัวเอง ด้วยการทำตัวตีตัวเสมอเจ้าอาวาส ใครไปที่กราบไหว้เจ้าอาวาสบางคนถึงได้ยินว่า หากกราบไหว้เจ้าอาวาสต้องกราบไหว้แม่ชีเชอรี่ด้วย โดยแม่ชีเชอรี่ จะนั่งอยู่ในระดับที่เสมอกับเจ้าอาวาสด้วยซ้ำ เรื่องนี้พระบางรูปท้วงติงถึงความไม่เหมาะสม แต่ก็สุดทัดทานเจอแม่ชีเชอรรี่ทั้งเรียกไปตักเตือนเป็นรายคนมาหมดแล้ว ถ้ายิ่งเจอพระสงฆ์ที่หัวแข็งไม่ยอมง่ายๆ ก็จะเจอแม่ชีเชอรี่ด่าขั้นรุนแรง หยาบคาย จนเอือมระอาไปหมดทั้งวัด

**ชาวบ้านสุดเอือมระอา แต่ทำอะไรไม่ได้

เรื่องราวของแม่ชีเชอรี่ หากจะสืบค้นจากคนในพื้นที่อาจกล่าวได้ว่าจะได้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันก็คือ มักไม่เหลือทัศนคติที่ดีต่อวัดถ้ำขวัญเมือง เช่น ขนานนามว่าวัดถ้ำขวัญเมืองเป็นวัดสำหรับคนรวย ไม่ใช่ที่ที่คนไม่มีเงินจะเข้าไปทำบุญได้ ต่างจากสมัยก่อนยุคหลวงพ่อสรวง ที่ใครก็สามารถเข้ามาทำบุญในวัดได้ไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมอย่างไร ซึ่งชาวบ้านไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นอีกแล้วนับตั้งแต่แม่ชีเชอรี่เข้ามาตั้งกฎเหล็กไว้หลายอย่าง

"วันพระใหญ่ อย่างวันเข้าพรรษา ออกพรรษา มาฆบูชา วิสาขบูชา จะมีการร้องเรียนพฤติกรรมของแม่ชีมากเป็นพิเศษ เนื่องจากตอนกลางคืนจะมีการจุดพุลเป็นจำนวนมากเป็นร้อยลูก เรียกว่าสนามกีฬายังต้องยอมแพ้ เพราะแม่ชีเชอรี่ฝังความเชื่อให้ลูกศิษย์ว่า ยิ่งจุดพุลเยอะจะได้บุญเยอะ หากพลุมีเสียงดังมากยิ่งจะได้บุญมากเข้าไปอีก และอีกทั้งจุดพลุแต่ละทีเป็นร้อยลูกไม่ใช่ตอนหัวค่ำแต่ยังเป็นเวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านรับไม่ได้จึงร้องเรียนวัด" แหล่งข่าวที่เป็นชาวบ้านเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม เวลาวัดถ้ำขวัญเมืองมีงานบุญใหญ่ ชาวบ้านละแวกนั้นจะพบเห็นลูกศิษย์ของแม่ชี ซึ่งเป็นคนมีเงินมีทองแห่มาทำบุญที่วัดถ้ำขวัญเมืองโดยจะนั่งรถบัสมาเป็นขบวนมาจากบริษัทขายตรงที่แม่ชีสังกัดอยู่ ซึ่งว่ากันว่า เป็นเครือข่ายสำคัญที่ทำให้แม่ชีเชอรี่ ดูอู้ฟู่หรูหรายกระดับชีวิตจากแม่ชีธรรมดาเป็นแม่ชีไฮโซ มีพาหนะหลักสิบล้านใช้ มีของแบรนด์เนมไว้ประดับกาย จนเป็นที่โด่งดังถึงความไม่เหมาะสมอยู่ในขณะนี้

เรื่องราวของแม่ชีเชอรี่ ยังไม่จบแค่นี้ ซึ่ง"ทีมข่าวเฉพาะกิจ ASTVผู้จัดการ" จะนำเสนอต่อไป
แม่ชีเชอรี่ หรือนางสุปริญญา ฮุนนางกุล หรือที่ชาวบ้านทั่วไปใน อ.สวี จ.ชุมพร เรียกว่า คุณนายแม่ชีเชอรี่ กับกองเงินของวัดถ้ำขวัญเมือง ภาพจาก http://pantip.com/topic/30889978
ภาพจาก http://pantip.com/topic/30889978
บรรยากาศในวัดถ้ำขวัญเมือง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร




กำลังโหลดความคิดเห็น