xs
xsm
sm
md
lg

ผสานกำลังคุม 5 ชาวบ้านบุกรุกที่หลวงกว่า 2 พันไร่ ยึดข้าวเปลือก รถไถ-รถอีแต๊ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุรินทร์ - ทหารผสานกำลัง ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ควบคุมชาวบ้านบุกรุกที่หลวงกว่า 2,000 ไร่ ใช้หว่านข้าวทำนา พร้อมยึดรถไถ รถอีแต๊ก ข้าวเปลือกที่ใช้หว่าน ชาวนาโบ้ยมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าของที่นาให้มาทำเพื่อนำข้าวที่ทำได้เป็นกองกลางสำหรับเลี้ยงกันเอง

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (2 ก.ค.) ที่บริเวณป่าสาธารณประโยชน์แปลงป่าโคกโชค-ป่าโคกเพชร ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.ต.นิรุทธ เกตุสิริ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดสุรินทร์, พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.สุรินทร์, นายวัลลพ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์, พ.ต.อ.ทศพร จิเนราวัต ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ นายชัยเดช เรืองสุข กำนันตำบลคอโค นายวิริยะ จันทร์เพ็ญ นายก อบต.คอโค ได้สนธิกำลังประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ อบต.คอโค เข้าจับกุมตัวชาวบ้านและยึดเครื่องจักรกล รถไถนา รถอีแต๊ก ข้าวเปลือก ที่บุกรุกแผ้วถางป่าทำกินและก่อสร้างเพิกพักอาศัยชั่วคราว บนเนื้อที่ 2,670 ไร่ 3 งาน 95 ตารางวา โดยชาวบ้านกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นทรัพย์มรดกของปู่ย่าตายายมาตั้งแต่อดีต และมีคนอ้างเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวให้มาทำนาเพื่อนำข้าวที่ได้เป็นกองกลางแบ่งกันกิน

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวราษฎรจำนวน 5 คน ที่กำลังนำรถไถนา ข้าวเปลือก หว่านข้าว ประกอบด้วย นายซอย สมไทย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 บ้านใหม่ ม.3 ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายเขียน ช่อมะลิ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.1 บ้านตระแสง ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายโล มาลาทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 บ้านใหม่ ม.3 ต.ตระ แสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายสมพงษ์ เล็มถิ่น อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 บ้านใหม่ ม.3ต.ตระ แสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นางปราณี ทองเกลียว อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 บ้านใหม่ ม.3 ต.ตระ แสง อ.เมือง จ.สุรินทร์

ก่อนหน้านั้นทหารได้ควบคุมตัวนางสุกานดา พูนดี และพวกรวม 11 คน มาที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่พากันสร้างกระท่อมที่พักในที่สาธารณประโยชน์ของทางราชการมากว่า 2 ปี โดยอ้างว่าเป็นกลุ่มสมัชาชาเกษตรกร ก่อนบุกเข้าจับกุมกลุ่มราษฎรที่บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ และทำการตรวจยึดรถไถนาเดินตาม และรถไถนาขนาดใหญ่มาตรวจสอบ

นายชัยเดช เรืองสุข กำนันตำบลคอโค กล่าวว่า อบต.คอโค และชาวบ้านตำบลคอโค ได้ร่วมกันปลูกต้นยูคาไว้บนพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์แปลงป่าโคกโชค-ป่าโคกเพชร ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่กลับมีชาวบ้านส่วนหนึ่งบุกรุกแผ้วถางและเผาตอไม้เพื่อปรับพื้นที่ไว้สำหรับการทำนาซึ่งบุกรุกมาแล้วถึง 3 ปี และมีคดีพิพาทกับทางราชการ ซึ่งศาลก็ตัดสินแล้วว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของหลวง แต่กลับมีชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางกินพื้นที่เป็นไปจำนวนมาก เวลานี้เป็นช่วงจังหวะที่ดี ที่ คสช.จะได้จัดการให้ถูกต้อง ลดข้อขัดแย้งในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีคำสั่งห้ามทางราชการไปมีปัญหากับทางชาวบ้านจึงทำให้เกิดปัญหายืดเยื้อมายาวนาน

พล.ต.นิรุทธ เกตุสิริ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายจะนำรถไถนาทั้ง 2 คันที่จับได้ รถไถนาเดินตามรถอีแต๊ก รวมทั้งประชาชนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะไปทำการสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งที่ดินดินดังกล่าวได้มีนางสุกานดา พูนดี และพวกร้องเรียนว่าการประกาศเขตที่สาธารณประโยชน์ป่าทุ่งอามัล และป่าโคกเพชรน้อย ทับที่ทำกินของชาวบ้าน และได้ร้องเรียนอ้างว่าทางราชการได้เรียกเก็บ ส.ค.1 ของชาวบ้านไป ตั้งแต่ปี 2521 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่สาธารณะประโยชน์ดังกล่าวเป็นกรณีพิพาทระหว่างราษฎรที่อ้างสิทธิครอบครอง และหน่วยงานภาครัฐ เป็นคดียืดเยื้ออยู่ในชั้นศาลจวบจนทุกวันนี้





กำลังโหลดความคิดเห็น