xs
xsm
sm
md
lg

ผบก.ตรังแจงพร้อมฟันไม่เลี้ยงหากลูกน้องผิดรุกที่ดิน อช.หาดเจ้าไหม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - ผู้บังคับการ จ.ตรัง พร้อมตรวจสอบหากลูกน้องผิดจริงฟันไม่เลี้ยง กรณีทหารนำกำลังตรวจสอบบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แต่หากไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา

วันนี้ (17 ก.ค.) จากกรณีที่ นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 30 นาย ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดินซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม บริเวณที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหาดเจ้าไหม ประมาณ 30 เมตร ในเนื้อที่ประมาณ 120 ไร่

หลังพบว่ามีการล้อมรั้วประกาศเป็นเจ้าของเข้าถือครองสิทธิ สำหรับที่ดินแปลงนี้ พ.ต.ท.สาธิต จันศร พนักงานสอบสวนพิเศษผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรกันตัง จ.ตรัง ได้ประกาศถือครองสิทธิโดยชอบธรรม โดยการนำลวดหนามมาปิดกั้น และห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบุกรุก จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบผู้ถือสิทธิครองที่ดินแปลงบริเวณดังกล่าว เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับหาดเจ้าไหม ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

ล่าสุด ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สาธิต จันศร พนักงานสอบสวนพิเศษผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรกันตัง จ.ตรัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดย พ.ต.ท.สาทิตย์ อ้างว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีสื่อมวลชนบางแห่งทำการเสนอข่าวที่บิดเบือน จนทำให้ตนเองเกิดความเสียหาย พ.ต.ท.สาธิต ระบุว่า

ตนมีเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน ส.ค.1 ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 90 ไร่ ในพื้นที่ ม.5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการรังวัดพิสูจน์สิทธิเพื่อขอออกโฉนดตามนโยบายของรัฐบาล และมีการมอบเอกสารให้แก่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่า ที่ดินที่ปักรั้วตลอดแนวได้แจ้งสิทธิครอบครองไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ใช่ที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง กล่าวว่า ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา เมื่อมีการเสนอข่าวออกไปในทางไม่ดี ตนก็ต้องมีการตรวจสอบ และให้ทาง พ.ต.ท.สาธิต ชี้แจง พร้อมจะมีการรายงานให้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบต่อไป ซึ่งตนก็จะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะสั่งดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญา และหากไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกกระทำเช่นกัน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น