น่าน - ชาวบ้าน 2 ตำบล ใน อ.ทุ่งช้าง ร้องทหารตรวจสอบโฉนดที่ดิน 29 ฉบับ พันกว่าไร่ของนายทุน ออกเอกสารสิทธิได้ในวันเดียว ทับซ้อนพื้นที่สาธารณะ ระบุบางแปลงต้องระงับการออกเอกสารสิทธิเอาไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า วันนี้ (28 มิ.ย.) พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการกองกำลังการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน มอบหมายให้ กอ.รมน.น่าน เข้าตรวจสอบกรณีชาวบ้าน ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง แจ้งเบาะแสการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนพื้นที่สาธารณะ และมีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
โดย พ.อ.ชัชวาลย์ กุลกุศล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่าน ได้ประสานหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อช.แม่จริม ป่าไม้ ทหารพรานที่ 32 สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 พร้อมด้วยที่ดินอำเภอเชียงกลา และพัฒนาที่ดินจังหวัดน่าน ร่วมกันตรวจสอบโฉนดที่ดิน 29 ฉบับ ในพื้นที่ไร่พุทธรักษา 88 ซึ่งอ้างตามเอกสารเป็นชื่อของนายอำนวย กลิ่นอยู่ ซึ่งมีตำแหน่งตามสื่อโดยทั่วไป และเป็นนายกสมาคมสลากกินแบ่งคนพิการแห่งประเทศไทย มีชื่อภรรยาเป็นผู้ครอบครอง
พ.ท.วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ หน.ชุดการข่าวสาร กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบร่วมกับชาวบ้าน โดยการเปรียบเทียบแผนที่ของกรมที่ดิน ปี 2545 พบว่ามีการออกโฉนดทับซ้อนที่สาธารณะอย่างชัดเจน เนื่องจากอ้างอิงตามแผนที่ ซึ่งปรากฏชัดว่าเส้นทางเดิมเป็นเส้นทางสาธารณะ รวมทั้งมีลำห้วยสาธารณะด้วย แต่จากการตรวจสอบสภาพปัจจุบัน มีการปิดประตูล้อมรั้วด้วยโครงสร้างถาวร 4 จุด และยังมีการปิดกั้นลำห้วยสาธารณะ 3 จุด คือ ห้วยป้อม ห้วยโอ้ง ห้วยกาแก้ด ซึ่งดัดแปลงเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ส่วนบุคคล ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล ได้รับผลกระทบจากการปิดทางเข้า-ออก ไม่สามารถสัญจรผ่านไปยังพื้นที่สาธารณะได้ และลำห้วยที่ถูกปิดกั้น ทำให้ไม่มีน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
และจากการตรวจสอบเอกสารสิทธิพบว่า มีที่ดิน 1,295 ไร่ ที่มีการออกเอกสารสิทธิแล้ว แต่เป็นการออกโฉนดทับซ้อนในที่สาธารณะ ซึ่งจะต้องตรวจสอบ และขอเรียกคืนที่ดิน และมีที่ดินบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินการขอเอกสารสิทธิ โดยแปลงที่ดินทางทิศใต้ ซึ่งติดกับหมู่บ้านทุ่งอ้าวที่มีการกั้นเขตไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อรอการออกโฉนด ซึ่งจะต้องระงับเพื่อตรวจสอบสิทธิและทับซ้อนในที่สาธารณะหรือไม่ ในส่วนที่ดินของชาวบ้านซึ่งอ้างว่าหายไปจากการออกโฉนดทับซ้อน ก็จะต้องมีการตรวจสอบสิทธิอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าการจับกุมไม้จำนวนมากในพื้นที่ไร่พุทธรักษา 88 ซึ่งนำไม้ประดู่ ไปซุกซ่อนในบ่อน้ำขนาดใหญ่ 4 บ่อ ขณะนี้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 ได้นำเครื่องจักร และรถแบ็กโฮเข้าขุดลอก ชักลากไม้ของกลางออกจากบ่อน้ำเพื่อตรวจสอบแล้ว
